เอ็กโก กรุ๊ป โชว์กำไรครึ่งปีแรก ทะยานกว่า 6,400 ล้านบาท

ข่าวสารและความเคลื่อนไหว

เอ็กโก กรุ๊ป โชว์กำไรครึ่งปีแรก ทะยานกว่า 6,400 ล้านบาท ลุยขยายพอร์ตไฟฟ้าต่างประเทศต่อเนื่อง

24 สิงหาคม 2560

นายชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2560 ว่า การดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกเป็นไปตามแผนงาน โดยมีกำไรสุทธิ 6,494 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 1,857 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 40 และหากพิจารณาเฉพาะผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของปี 2560 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ จำนวน 3,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1,482 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 72 เนื่องจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2560 ในอัตราหุ้นละ 3.50 บาท ในวันที่ 15 กันยายน 2560 นี้ 

“นอกจากนั้น เอ็กโก กรุ๊ป ยังมีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยโรงไฟฟ้า “คลองหลวง” จ.ปทุมธานี ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป และคาดว่าโรงไฟฟ้า SPP ประเภทโคเจนเนอเรชั่นอีกแห่งหนึ่ง คือ โรงไฟฟ้า “บ้านโป่ง” จ.ราชบุรี กำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ จะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นอีก” นายชนินทร์กล่าว

สำหรับการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน ตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยให้ความสำคัญกับธุรกิจไฟฟ้าซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญ และเน้นขยายธุรกิจในต่างประเทศที่มีฐานอยู่แล้วและสามารถขยายตลาดได้อีก เพื่อรักษาอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อย่างน้อยร้อยละ 10 

“ปัจจุบันต้องยอมรับว่า โอกาสการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าในประเทศมีค่อนข้างจำกัด เนื่องจากนโยบายการพัฒนาไฟฟ้ามุ่งไปที่โรงไฟฟ้าขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ เช่น โรงไฟฟ้าชีวมวล ดังนั้น แนวทางการเติบโตของบริษัทในอนาคต จะยังคงขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เรามีฐานการดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว และจะพัฒนาแบบต่อยอดจากพื้นที่ที่มีอยู่ เช่น ฟิลิปปินส์ ที่เราเข้าไปลงทุนตั้งแต่ปี 2551” นายชนินทร์กล่าวเสริม

ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในต่างประเทศ 4 โครงการ ได้แก่ สปป.ลาว 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ “ปากแบง” กระบวนการรับฟังความคิดเห็น โดยคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลเพื่อเริ่มเจรจาค่าไฟฟ้า (Tariff MOU) กับ กฟผ. และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำเทิน 1” ร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ผ่านการพิจารณาจากอัยการสูงสุดแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ.และเจรจาสัญญาเงินกู้กับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ “สตาร์ เอนเนอร์ยี่ ส่วนขยาย (หน่วยที่ 3 และ 4)” ประเทศอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างการเจาะสำรวจแหล่งไอน้ำเพิ่มเติมเพื่อยืนยันปริมาณไอน้ำสำหรับโรงไฟฟ้า หน่วยที่ 3 และการเจรจาค่าไฟฟ้ากับการไฟฟ้าอินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าถ่านหิน “กวางจิ” ประเทศเวียดนาม อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อเริ่มเจรจาสัญญาหลักต่างๆ เช่น สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าเวียดนาม สัญญาเช่าที่ดิน สัญญาสัมปทานและสัญญารับประกัน กับรัฐบาลเวียดนาม

เกี่ยวกับเอ็กโก กรุ๊ป 
ณ เดือนกรกฎาคม 2560 เอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 27 แห่ง คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 4,352 เมกะวัตต์ ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย และมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 5 โครงการ คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 750 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท ทั้งก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ชีวมวล ขยะ พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานความร้อนใต้พิภพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน