EN | TH
10 May 1996

รายงานฐานะการเงินและบริษัทย่อยไตรมาสแรกสิ้นสุดวันที่ 31มีค39

รายงานของผู้สอบบัญชี เสนอคณะกรรมการ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุลรวม ลงวันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538 และงบ กำไรขาดทุนรวมประจำแต่ละไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันเดียวกันตามลำดับของ บริษัท ผลิต ไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย การสอบทานงบการเงินระหว่างกาลนี้ส่วนใหญ่ประกอบด้วย การทำความเข้าใจ เกี่ยวกับระบบในการจัดทำงบการเงิน การใช้วิธีวิเคราะห์เปรียบเทียบในการวิเคราะห์ ข้อมูลทางการเงิน และการสอบถามเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทางการเงิน และบัญชี ซึ่งการสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัดกว่าการตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่ รับรองทั่วไปเพื่อแสดงความเห็นต่องบการเงินมาก ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็น ต่องบการเงินที่สอบทานได้ ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นสาระสำคัญซึ่งควรนำมาปรับปรุงงบการเงินระหว่างกาลรวมที่ กล่าวในวรรคแรกให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป จากการสอบทานของข้าพเจ้า ดังกล่าวข้างต้น เติมศักดิ์ กฤษณามระ กรุงเทพมหานคร ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 1106 วันที่ 26 เมษายน 2539 สำนักงานไชยยศ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบดุลรวม ลงวันที่ 31 มีนาคม "ยังไม่ได้ตรวจสอบ" 2539 2538 สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน เงินฝากสถาบันการเงิน 8,937,495,911 482,500,528 เงินฝากสถาบันการเงินที่ใช้เป็นหลักประกัน (หมายเหตุข้อ 3) 2,220,124,682 1,383,880,150 ลูกหนี้การค้า 668,066,829 688,484,720 สินค้าคงเหลือ 840,312,817 1,013,429,904 สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 325,742,456 1,334,484,890 12,991,742,695 4,902,780,192 เงินลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทอื่น 27,971,237 - ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ 15,439,692,826 15,925,402,775 สินทรัพย์อื่น 650,683,540 548,264,854 รวม บาท 29,110,090,298 21,376,447,821 ดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม "สอบทานแล้ว" บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบดุลรวม ลงวันที่ 31 มีนาคม "ยังไม่ได้ตรวจสอบ" 2539 2538 หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น หนี้สินหมุนเวียน เงินปันผลค้างจ่าย 440,000,000 - หนี้สินหมุนเวียนอื่น 990,127,150 955,369,986 1,430,127,150 955,369,986 เงินกู้ยืมระยะยาว (หมายเหตุข้อ 4) 9,888,242,512 10,180,850,400 หุ้นกู้ (หมายเหตุข้อ 5) 3,410,000,000 3,460,000,000 ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 3,031 2,852 ส่วนของผู้ถือหุ้น 14,381,717,605 6,780,224,583 รวม บาท 29,110,090,298 21,376,447,821 ดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม "สอบทานแล้ว" บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งบกำไรขาดทุนรวม ประจำไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 มีนาคม "ยังไม่ได้ตรวจสอบ" 2539 2538 รายได้ รายได้จากการขาย (หมายเหตุข้อ 7) 942,866,441 965,266,609 รายได้อื่น 161,742,441 65,072,071 รวมรายได้ บาท 1,104,608,882 1,030,338,680 ค่าใช้จ่าย ต้นทุนขาย 334,888,842 201,758,981 ค่าใช้จ่ายอื่น 454,857,605 478,213,416 ภาษีเงินได้ (หมายเหตุข้อ 8) 28,379,396 105,109,885 รวมค่าใช้จ่าย 818,125,843 785,082,282 กำไรสุทธิรวมก่อนหักกำไรสุทธิของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 286,483,039 245,256,398 หัก กำไรสุทธิของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทย่อย - (สุทธิ จากการปรับยอดยกมาเฉพาะปี 2538) (40) (1,105) กำไรสุทธิ บาท 286,483,079 245,257,503 กำไรสุทธิประจำไตรมาสต่อหุ้น บาท 0.65 0.61 ดูหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม "สอบทานแล้ว" บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลรวม ประจำไตรมาสสิ้นสุดเพียงวันที่ 31 มีนาคม 2539 และ 2538 1.เกณฑ์การเสนองบการเงินรวม งบการเงินรวมเป็นการรวมรายการบัญชีของบริษัทและบริษัทย่อย ดังต่อไปนี้ 2539 2538 อัตราการถือหุ้น อัตราการถือหุ้น ร้อยละ ร้อยละ บริษัท ผลิตไฟฟ้าระยอง จำกัด 99.99 99.99 บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด 99.99 99.99 บริษัท เอ็กโก เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด 99.99 - บริษัท เอ็กโก ร่วมทุนและพัฒนา จำกัด 99.99 - 2.การจัดประเภทรายการ งบการเงินระหว่างกาล ประจำไตรมาสสิ้นสุดเพียงวัน ที่ 31 มีนาคม 2538 บางรายการได้มีการจัดประเภทใหม่ เพื่อให้สอด คล้องกับการแสดงรายการในงบการเงินระหว่างกาลประจำไตรมาส สิ้นสุด เพียงวันที่ 31 มีนาคม 2539 3.เงินฝากสถาบันการเงินที่ใช้เป็นหลักประกัน เงินฝากสถาบันการเงินที่ใช้เป็นหลักประกันเป็นเงินฝากสถาบันการเงิน ของบริษัทย่อยซึ่งกันไว้จากรายได้ค่าขายไฟฟ้า เพื่อเป็นเงินสำรอง สำหรับภาระหนี้สินดังกล่าวในหมายเหตุ ข้อ 4 และข้อ 5 4.เงินกู้ยืมระยะยาว เงินกู้ยืมระยะยาว เป็นเงินกู้ยืมที่บริษัทย่อยแห่งหนึ่ง กู้ยืมจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ดังนี้ 2539 2538 เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินต่างประเทศ 6,906,885,000 7,000,270,000 เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินภายในประเทศ 3,408,000,000 3,532,050,000 10,314,885,000 10,532,320,000 หัก ส่วนที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี (426,642,488) (351,469,600) บาท 9,888,242,512 10,180,850,400 เงินกู้ยืมระยะยาวดังกล่าว มีการจดจำนองที่ดิน อาคาร โรงไฟฟ้าและจด จำนำอุปกรณ์ของโรง ไฟฟ้าตามที่ระบุในสัญญา และมีสัญญาจะโอนสิทธิ เรียกร้องของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งให้แก่เจ้าหนี้เงินกู้ยืมเพื่อเป็นหลักประกัน 5.หุ้นกู้ หุ้นกู้เป็นหุ้นกู้ของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งประกอบด้วย 2539 2538 หุ้นกู้ 3,460,000,000 3,500,000,000 หัก ส่วนที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี (50,000,000) (40,000,000) บาท 3,410,000,000 3,460,000,000 หุ้นกู้ดังกล่าวมีการจดจำนองที่ดิน อาคาร โรงไฟฟ้าและจดจำนำอุปกรณ์ ของโรงไฟฟ้าของบริษัทย่อยตามที่ระบุในสัญญาและมีสัญญาจะโอนสิทธิ เรียกร้องของบริษัทย่อยให้แก่เจ้าหนี้หุ้นกู้เพื่อเป็นหลักประกัน 6.ทุนเรือนหุ้น ผู้ถือหุ้นบริษัทได้มีมติเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2538 ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 4,000 ล้านบาทเป็น 5,300 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 130 ล้าน หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ซึ่งบริษัทได้จดทะเบียนการเพิ่ม ทุนกับกรมทะเบียนการค้าแล้วเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2538 ตามมติผู้ถือหุ้นดังกล่าวข้างต้นให้นำหุ้นสามัญใหม่ออกจัดสรรดังนี้ - เสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 40 ล้านหุ้น ในสัด ส่วนหุ้นเดิม 10 หุ้นต่อหุ้นสามัญใหม่ 1 หุ้น ในราคาหุ้น ละ 30 บาท บริษัทได้รับชำระค่าหุ้นครบถ้วนแล้วและได้จด ทะเบียนเพิ่มทุนกับกรมทะเบียนการค้าแล้ว เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2538 - เสนอขายหุ้นสามัญใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นจำนวน 80 ล้าน หุ้น ซึ่งราคาเสนอขายให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการของบริษัท - ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญจำนวน 10 ล้านหน่วย โดย เสนอขายให้แก่พนักงานของบริษัทและบริษัทในเครือในราคาหน่วย ละ 0 บาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยมีสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ ใหม่ 1 หุ้น ในราคา 30 บาท โดยกำหนดให้ใช้สิทธิภายใน 1 ปีนับตั้งแต่ วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อมาคณะกรรมการบริษัทได้มีมติเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2539 ให้เสนอ ขายหุ้นดังกล่าวให้แก่ผู้ ลงทุนในประเทศจำนวน 56 ล้านหุ้น ราคา เสนอขายหุ้นละ 72 บาทและเสนอขายแก่ผู้ลงทุนในต่างประเทศ จำนวน 24 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 83 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2539 บริษัทได้รับเงินชำระค่าหุ้นดังกล่าว เป็นจำนวนเงิน 5,860 ล้านบาทและส่วนที่เหลืออีกจำนวน 164 ล้าน บาท บริษัทได้รับชำระครบแล้ว ภายหลังวันที่ 31 มีนาคม 2539 ซึ่ง บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนกับกรมทะเบียนการค้าแล้วเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2539 ดัง นั้นจึงมีทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นครั้งนี้จำนวน 80 ล้านบาท และมีส่วน ล้ำมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นจำนวน 5,944 ล้านบาท 7.รายได้ค่าไฟฟ้า รายได้ค่าไฟฟ้าในส่วนของรายได้ค่าพลังงานไฟฟ้าของบริษัทย่อยแห่ง หนึ่งตั้งแต่เริ่มดำเนินงานจนถึงไตรมาสสิ้นสุดเพียงวัน ที่ 31 มีนาคม 2539 ไม่ได้รวมคำนวนต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็น ผลมาจากการที่บริษัทยังไม่มีต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติเนื่องจากการไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นผู้รับภาระต้นทุนก๊าซธรรมชาติจนกว่าบริษัท ย่อยจะมีสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติกับการ ปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ตามเงื่อนไขของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ซึ่งต้องรอผลการเจรจาระหว่างการ ไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกับการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย 8.ภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทย่อยแห่งหนึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากการผลิตไฟฟ้า โดย ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี (ตั้งแต่วัน ที่ 20 เมษายน 2538 ถึงวันที่ 19 เมษายน 2546) และได้รับลดหย่อนภาษี เงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิในอัตราร้อยละ 50 ของอัตราปกติมี กำหนดเวลา 5 ปี นับจากพ้นกำหนดเวลา 8 ปีดังกล่าว (ตั้งแต่วัน ที่ 20 เมษายน 2546 ถึงวันที่ 19 เมษายน 2541) สำหรับรายได้อื่นที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน คำนวณภาษีเงินได้ นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิก่อนภาษีเงินได้ 9.สัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในปี 2537 บริษัทย่อยแห่งหนึ่ง ได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สัญญาดังกล่าวมีอายุ 20 ปี นับตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2537