10 August 2006
ทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร ครึ่งปีแรกปี 2549
1H'49 1H'48 %เปลี่ยนแปลง
จีอีซี 1,333 1,142 17%
ทีแอลพี โคเจน 758 612 24%
เอพีบีพี 132 127 4%
ร้อยเอ็ด กรีน 55 53 3%
รวมต้นทุนขาย-เอสพีพี 2,277 1,934 18%
- ค่าใช้จ่ายในการบริหารและภาษี จำนวน 242 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกัน
ของปีก่อนจำนวน 79 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 49 สาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายในการบริหารและภาษี
ของ จีอีซี จำนวน 225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77 ล้านบาท เนื่องจากค่าธรรมเนียมในการ
Prepayment สำหรับการ Refinance เงินกู้และค่าธรรมเนียมในการ Restructuring เงินกู้
ของบริษัทย่อยของ จีอีซี 3 บริษัท คือ บริษัท กัลฟ์ โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (จีซีซี) บริษัท หนองแค
โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (เอ็นเคซีซี) และ บริษัท สมุทรปราการโคเจนเนอเรชั่น จำกัด (เอสซีซี)
- ดอกเบี้ยจ่าย จำนวน 240 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน
78 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 48 สาเหตุหลักมาจาก ดอกเบี้ยจ่ายของ จีอีซี ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 83 ล้านบาท
เนื่องจากค่า Unwind cost ของสัญญา Interest Rate Swap และการเบิกเงินกู้เพื่อใช้ในการ
บริหารงานของโครงการแก่งคอย 2 สำหรับดอกเบี้ยจ่ายของทีแอลพี โคเจน และ ร้อยเอ็ด กรีน
ลดลง 5 ล้านบาท และ 1 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากจำนวนเงินต้นลดลง
4) กลุ่มธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าต่างประเทศ ประกอบด้วย โคแนล และ เอ็นทีพีซี มีรายได้รวม
381 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 36 ล้านบาท หรือร้อยละ 9 ส่วน
ค่าใช้จ่ายรวมของกลุ่มเป็นจำนวน 207 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
4 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 2 รายละเอียดดังต่อไปนี้
รายได้และค่าใช้จ่ายของกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตโรงไฟฟ้าต่างประเทศ: หน่วย : ล้านบาท
โคแนล เอ็นทีพีซี รวม
1H'49 1H'48 1H'49 1H'48 1H'49 1H'48 %เปลี่ยนแปลง
รายได้รวม 380 418 2 - 381 418 (9%)
ค่าใช้จ่ายรวม 197 203 10 - 207 203 2%
- รายได้ค่าไฟฟ้า จำนวน 344 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 52
ล้านบาท หรือ ร้อยละ 13 ซึ่งเกิดจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ลดลงเนื่องจากการโอนโรงไฟฟ้า
จำนวน 40 เมกะวัตต์ ของ เอ็นเอ็มพีซี ให้แก่ เอ็นพีซี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ซึ่ง
เป็นไปตามสัญญาที่กำหนดไว้
- รายได้จากดอกเบี้ยรับและรายได้อื่นๆ จำนวน 37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16 ล้านบาท
หรือ คิดเป็นร้อยละ 75 ส่วนใหญ่มาจากรายได้อื่นและดอกเบี้ยรับของ โคแนลที่เพิ่มขึ้น
- ต้นทุนขาย จำนวน 56 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน
38 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 41 เนื่องจากการโอนโรงไฟฟ้าของเอ็นเอ็มพีซี
- ค่าใช้จ่ายในการบริหารและภาษี จำนวน 113 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลา
เดียวกันของปีก่อน จำนวน 37 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 49 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้น
ของค่าใช้จ่ายในการบริหารและภาษีของโคแนลที่เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 27 ล้านบาท โดยเป็นการ
เพิ่มขึ้นของภาษีเงินได้ของโคแนล จำนวน 47 ล้านบาท เนื่องจากในครึ่งปีแรก ปี 2548
มีการปรับปรุงภาษีเงินได้รอการตัดจ่าย ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารของโคแนลลดลง
21 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับการโอนโรงไฟฟ้าของเอ็นเอ็มพีซี นอกจากนั้น เอ็นทีพีซี
ยังมีการเปลี่ยนมาใช้การบันทึกบัญชีวิธีรวมตามสัดส่วนสำหรับ เอ็นทีพีซี ทำให้เริ่มต้น
บันทึกค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการน้ำเทิน 2 จำนวน 10 ล้านบาท
- ดอกเบี้ยจ่าย จำนวน 38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
จำนวน 5 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 15
5) กลุ่มธุรกิจอื่นๆ ประกอบด้วย 2 บริษัทย่อยคือ เอสโก และ เอ็กคอมธารา
มีรายได้รวมทั้งสิ้น 517 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 118
ล้านบาท หรือ ร้อยละ 30 และมีค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 354 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลา
เดียวกันของปีก่อน จำนวน 90 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 34 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
รายได้และค่าใช้จ่ายของกลุ่มธุรกิจอื่นๆ: หน่วย : ล้านบาท
เอสโก เอ็กคอมธารา รวม
1H'49 1H'48 1H'49 1H'48 1H'49 1H'48 %เปลี่ยนแปลง
รายได้รวม 421 314 96 85 517 399 30%
ค่าใช้จ่ายรวม 323 232 31 31 354 264 34%
- รายได้ค่าบริการของเอสโก จำนวน 411 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกัน
ของปีก่อน จำนวน 102 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 33 สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของการให้
การบริการบำรุงรักษาและขายอุปกรณ์เครื่องจักรในการผลิตไฟฟ้าระหว่างเอสโก กับ
โรงไฟฟ้าเอลกาลี 2 ประเทศซูดาน
- รายได้ค่าน้ำ ของเอ็กคอมธารา จำนวน 93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก
ปี 2548 จำนวน 10 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 12 เนื่องจากปริมาณน้ำประปาขั้นต่ำ
(Minimum Take) และอัตราค่าน้ำที่เพิ่มขึ้นตามสัญญาระยะยาวกับการประปาส่วนภูมิภาค
- รายได้จากดอกเบี้ยรับและรายได้อื่นๆ จำนวน 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาท
หรือ คิดเป็นร้อยละ 51 ส่วนใหญ่มาจากดอกเบี้ยรับที่เพิ่มขึ้นของ เอสโก 2 ล้านบาท และ
เอ็กคอมธารา เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาท เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
- ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยและกิจการร่วมค้าของเอสโก จำนวน 3 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาท จาก บริษัท อมตะ เพาเวอร์-เอสโก เซอร์วิส จำกัด (อเมสโก)
- ต้นทุนบริการ จำนวน 281 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 92
ล้านบาท หรือร้อยละ 49 เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการให้บริการบำรุงรักษาและ
ต้นทุนอุปกรณ์เครื่องจักรของ เอสโก ซึ่งสอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น
- ต้นทุนขายน้ำประปา จำนวน 28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของ
ปีก่อน จำนวน 1 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 4 มาจาก เอ็กคอมธารา เนื่องจากค่าจ้างผลิต
น้ำประปาและบำรุงรักษาระบบผลิตและท่อส่งน้ำประปาเพิ่มขึ้น
- ค่าใช้จ่ายในการบริหารและภาษี จำนวน 43 ล้านบาท ลดลงจากครึ่งปีแรกของ
ปีก่อน จำนวน 1 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 3 เนื่องจากภาษีเงินได้ของเอสโกลดลง 3 ล้านบาท
จากกำไรสุทธิที่ลดลง
- ดอกเบี้ยจ่าย จำนวน 2 ล้านบาท ลดลงจากครึ่งปีแรกของปีก่อน จำนวน 1.64
ล้านบาท หรือ ร้อยละ 48 เนื่องจากเงินต้นคงเหลือของเงินกู้ของ เอ็กคอมธารา ลดลง
4. รายงานและวิเคราะห์ฐานะการเงิน
4.1 การวิเคราะห์สินทรัพย์
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 บผฟ. บริษัทย่อย บริษัทร่วมและกิจการร่วมค้า
มีสินทรัพย์รวมจำนวน 68,824 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,574 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 12
เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2548 โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้
1) เงินสด เงินฝากสถาบันการเงิน เงินลงทุนในหลักทรัพย์ในความต้องการของ
ตลาด ทั้งระยะสั้นและระยะยาว จำนวน 13,907 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20
ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้น 1,494 ล้านบาท หรือร้อยละ 12 สาเหตุหลักจาก
เงินฝากสถาบันการเงินและหลักทรัพย์ในความต้องการตลาดระยะสั้นที่เพิ่มขึ้น 2,150
ล้านบาท เนื่องจากเงินปันผลรับของ บผฟ. จากบริษัทย่อย เงินลงทุนระยะยาวใน
หลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดและเงินลงทุนอื่นๆเพิ่มขึ้น 37 ล้านบาท
ส่วนเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลง 692 ล้านบาท
2) เงินลงทุนระยะสั้นและระยะยาวที่ใช้เป็นหลักประกัน จำนวน 4,765 ล้านบาท
คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7 ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้น 290 ล้านบาท หรือร้อยละ 6
สาเหตุหลักจากการทยอยสำรองไว้เพื่อใช้ในการจ่ายชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย
ที่จะครบกำหนดชำระคืนของ บฟร.
3) เงินลงทุนในบริษัทย่อย บริษัทร่วมและส่วนได้เสียในกิจการร่วมค้า
จำนวน 460 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1 ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้น 57 ล้านบาท
หรือร้อยละ 14 เกิดจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก เออีพี
4) ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์สุทธิ จำนวน 39,367 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน
ร้อยละ 57 ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้นสุทธิทั้งสิ้น 4,618 ล้านบาท หรือร้อยละ 13
สินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจาก การก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมของ จีอีซี เอ็นทีพีซี
และ เอพีบีพี จำนวน 4,956 ล้านบาท 911 ล้านบาท และ 82 ล้านบาทตามลำดับ
การบันทึกวัสดุสำรองหลักเป็นสินทรัพย์เนื่องจากการซ่อมบำรุงรักษาของ บฟร. บฟข.
และ ทีแอลพี โคเจน จำนวน 263 ล้านบาท 220 ล้านบาท และ 40 ล้านบาท ตามลำดับ
ในขณะที่สินทรัพย์ลดลง เนื่องจากการตัดค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ บผฟ.
และบริษัทย่อยอื่นๆ จำนวน 1,268 ล้านบาท และการโอนวัสดุสำรองหลักที่ไม่ได้ใช้
งานออกไปยังวัสดุสำรองคลังของ บฟร. บฟข. และ ทีแอลพี โคเจน จำนวน 168 ล้านบาท
116 ล้านบาท และ 35 ล้านบาท ตามลำดับ
5) สินทรัพย์อื่นๆ จำนวน 10,325 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของ
สินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้น 1,115 ล้านบาท หรือร้อยละ 12 ซึ่งเป็นผลจาก สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นๆ
เพิ่มขึ้น 566 ล้านบาทเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของภาษีซื้อรอเรียกคืนและค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า
ของ จีอีซี ที่เพิ่มขึ้น 304 ล้านบาท และ 70 ล้านบาทตามลำดับ ประกอบกับรายได้
ค้างรับของ เอสโก เพิ่มขึ้น 139 ล้านบาท ส่วนลูกหนี้การค้ากิจการที่เกี่ยวข้องกันเพิ่มขึ้น
428 ล้านบาท
4.2 การวิเคราะห์หนี้สิน
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 บริษัทมีหนี้สินรวม จำนวน 33,809 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
4,674 ล้านบาท หรือร้อยละ 16 เนื่องจากเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินและหุ้นกู้
ที่เพิ่มขึ้น ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1) เงินกู้ยืมระยะยาวและหุ้นกู้ จำนวน 28,478 ล้านบาท หรือร้อยละ
84 ของหนี้สินรวม เพิ่มขึ้น 4,993 ล้านบาท หรือร้อยละ 21 โดยมีรายละเอียด
เป็นเงินตราสกุลต่างๆ ดังนี้
- เงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 363 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- เงินกู้สกุลเยน จำนวน 1,018 ล้านเยน
- เงินกู้สกุลเปโซ จำนวน 65 ล้านเปโซ
- เงินกู้สกุลบาท จำนวน 7,323 ล้านบาท
- หุ้นกู้สกุลบาท จำนวน 7,511 ล้านบาท
ในครึ่งปีแรก ปี 2549 มีการเบิกเงินกู้เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 7,685 ล้านบาท
สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าของ จีอีซี เอ็นทีพีซี และ เอพีบีพี ในขณะที่มีการ
ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะยาวรวมทั้งสิ้น 4,532 ล้านบาท นอกจากนี้เมื่อเดือน
เมษายน 2549 จีซีซี ออกหุ้นกู้สกุลบาท เพื่อ Refinancing เงินกู้ จีซีซี
เอ็นเคซีซี และ เอสซีซี ซึ่งหากคิดตามสัดส่วนที่ บผฟ. ถือหุ้นร้อยละ 50
แล้ว จะเป็นหนี้ตามสัดส่วนของ บผฟ. จำนวน 2,900 ล้านบาท ในขณะที่
มีการจ่ายชำระคืนหุ้นกู้ของ บฟข.จำนวน 283 ล้านบาท
2) หนี้สินอื่นๆ จำนวน 5,331 ล้านบาทหรือร้อยละ 16 ของหนี้สินรวม
ได้แก่ เจ้าหนี้ค่าก่อสร้าง 1,202 ล้านบาท เจ้าหนี้การค้า 865 ล้านบาท
ดอกเบี้ยค้างจ่าย 176 ล้านบาท ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้ค้างจ่าย 862
ล้านบาท และ อื่นๆ 2,226 ล้านบาท
4.3 การวิเคราะห์ส่วนของผู้ถือหุ้น
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 ส่วนของผู้ถือหุ้น มีจำนวน 35,015 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2548 จำนวน 2,900 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยหลักคือ บผฟ.
มีกำไรจากผลการดำเนินงาน
จากการวิเคราะห์โครงสร้างของเงินทุน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 สรุปได้ดังนี้
ส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 35,015 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50.88
หนี้สิน จำนวน 33,809 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 49.12
สามารถคำนวณหา อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ ได้ดังนี้
- อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เท่ากับ 0.97 เท่า สูงกว่า สิ้นปี 2548 ซึ่งเท่ากับ 0.91 เท่า
- มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์สุทธิต่อหุ้น เท่ากับ 64.23 บาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2548 ซึ่งอยู่ที่ระดับ
58.96 บาท
5. รายงานและวิเคราะห์กระแสเงินสด
งบกระแสเงินสดแสดงกระแสเงินสดที่เปลี่ยนแปลงจากกิจกรรม
ดำเนินงาน กิจกรรมลงทุน และกิจกรรมจัดหาเงิน ณ สิ้นงวดบัญชี และแสดง
เงินสดและรายการเทียบเท่าคงเหลือสิ้นงวด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 เงินสด
และรายการเทียบเท่าคงเหลือ เป็นเงินจำนวน 8,128 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี
2548 จำนวน 692 ล้านบาท ซึ่งมีรายละเอียดของแหล่งที่มาและแหล่งที่ใช้ไป
ของเงินดังต่อไปนี้
- เงินสดสุทธิที่ได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน จำนวน 3,224 ล้านบาท
ส่วนใหญ่มาจากเงินสดที่ได้จากการดำเนินงาน 4,571 ล้านบาท ในขณะที่การ
เปลี่ยนแปลงเงินทุนหมุนเวียนลดลง 1,348 ล้านบาท
- เงินสดสุทธิที่ใช้ไปสำหรับกิจกรรมลงทุน จำนวน 8,663 ล้านบาท
โดยมีเงินลงทุนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าของ จีอีซี จำนวน 5,660 ล้านบาท เอ็นทีพีซี
จำนวน 849 ล้านบาท และเอพีบีพี จำนวน 82 ล้านบาท และเงินลงทุนระยะสั้น
1,863 ล้านบาท ในขณะที่ได้รับเงินปันผลจากอีสท์ วอเตอร์ กองทุนเปิดเคทีเอสเอฟ
และกองทุนเปิดอื่นๆ จำนวน 31 ล้านบาท 130 ล้านบาท และ 7 ล้านบาทตามลำดับ
- เงินสดสุทธิที่ได้มาจากกิจกรรมจัดหาเงิน จำนวน 4,763 ล้านบาท
เนื่องจากการเบิกเงินกู้เพิ่มของ จีอีซี จำนวน 6,948 ล้านบาท เอ็นทีพีซี จำนวน 678
ล้านบาท และ เอพีบีพี จำนวน 60 ล้านบาท และการออกหุ้นกู้ของจีซีซี จำนวน 2,900
ล้านบาท ในขณะที่มีการชำระคืนเงินกู้ ของ บฟร. บฟข. ทีแอลพี โคเจน ร้อยเอ็ด กรีน
เอ็กคอมธารา เอพีบีพี จีอีซี และ โคแนล จำนวน 4,532 ล้านบาท และชำระคืนหุ้นกู้ของ
บฟข. จำนวน 283 ล้านบาท นอกจากนั้น บผฟ. ได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวน
908 ล้านบาท