ชี้แจงข่าว "เอ็กโกล้มแผนร่วมทุน SPP 2 โครงการ"

ที่ บผฟ. 310/47 1 กุมภาพันธ์ 2543 เรื่อง ชี้แจงข่าว"เอ็กโกล้มแผนร่วมทุน SPP 2 โครงการ" เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อ้างถึง หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 31 มกราคม 2543 หน้า 20 ตามที่หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 31 มกราคม 2543 หน้า 20 ได้ลงข่าวโดยพาดหัวข่าว "เอ็กโกล้มแผนร่วมทุน SPP 2 โครงการ" ซึ่งในเนื้อข่าว ประมาณ 4-5 คอลัมน์มีสาระสำคัญทำให้เข้าใจได้ว่า เอ็กโกประสงค์ขอยกเลิกการ ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าที่จังหวัดร้อยเอ็ด และโรงไฟฟ้ายะลาแน่นอน ความละเอียด ปรากฏในเอกสารที่อ้างถึง นั้น บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ บผฟ. หรือ "เอ็กโก" ขอชี้แจงข้อ เท็จจริงมาดังนี้ 1.เอ็กโก ยังมิได้แจ้งขอยกเลิกการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าที่จังหวัด ร้อยเอ็ดและโรงไฟฟ้าที่จังหวัดยะลาตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด 2.โดยข้อเท็จจริง เอ็กโกได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายพลังงานชาติ (สพช.) และได้ดำเนินการเพื่อประสงค์ให้เกิดการลงทุนใน โครงการดังกล่าวทุกวิถีทาง เนื่องจากโครงการทั้งสองเป็นโครงการที่สามารถ ประหยัดค่าเชื้อเพลิงปิโตรเลียมที่ต้องใช้เงินตราต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งยัง ส่งเสริมการใช้กากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรซึ่งเป็น renewable fuel ที่ช่วย ลดมลพิษและปัญหาต่าง ๆ อันเกิดจากการใช้เชื้อเพลิงปิโตรเลียมที่เป็น non- renewable fuel ได้ด้วยเท่ากับเป็นการสร้างผลตอบแทนให้แก่สังคมและประเทศ โดยรวมเป็นมูลค่าที่สูงมาก 3.ในการศึกษาจัดทำโครงการดังกล่าวพบว่า ค่าลงทุนศึกษาเตรียมการ ตลอดจนราคาโรงไฟฟ้า และต้นทุนทางการเงินต่อจำนวนกำลังการผลิตไฟฟ้า (Investment Cost/MW) สูงกว่าต้นทุนโครงการโรงไฟฟ้าทั่วไปทั้ง SPP และ IPP เป็นจำนวนมาก กล่าวคือ สูงกว่า SPP ประมาณร้อยละ 50 และ IPP ประมาณร้อยละ 100 ดังนั้น แม้เอ็กโกอาจจะเป็นบริษัทที่สามารถจัดหาเงินทุน และดำเนินโครงการในขั้นตอนต่าง ๆ ได้เปรียบกว่าบริษัทอื่น ๆ ทำให้ประหยัด ค่าใช้จ่ายได้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าโครงการดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงกว่า โครงการโรงไฟฟ้าทั่วไป และยังให้ผลตอบแทนที่ไม่จูงใจอีกด้วย อย่างไรก็ดี โดยเหตุผลที่โครงการดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับ สังคมและประเทศได้โดยตรงและเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม รัฐบาลกำลังพิจารณาที่ จะให้แรงจูงใจ (Incentive) ที่เป็นธรรมโดยการปรับสูตรการรับซื้อไฟฟ้าจากโรง ไฟฟ้าประเภทดังกล่าว เอ็กโกเห็นว่าสูตรดังกล่าวควรมีลักษณะยอมรับภาระความเสี่ยง หรือการเปลี่ยนแปลงทางด้านเชื้อเพลิงในเรื่องราคาและอุปทาน ตลอดจนต้นทุนที่สูงขึ้น อันเกิดจากการใช้เชื้อเพลิงกากวัสดุทางการเกษตร และยอมรับให้โครงการดังกล่าวได้ รับผลตอบแทนในเชิงธุรกิจเพียงพอกับการรักษาไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือทางการเงินของ กิจการธุรกิจเอกชนที่ดำเนินโครงการนั้น ๆ ปัจจุบัน เอ็กโกได้ขอหารือกับ สพช.และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในรายละเอียดของเรื่องดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบเป็นการภายใน ว่าจำเป็นต้องมีการปรับสูตรการรับซื้อไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้าประเภทที่ใช้กากวัสดุทาง การเกษตรเป็นกรณีเฉพาะตามเหตุผลที่กล่าวข้างต้น 4.ขณะเดียวกัน เอ็กโก ได้ติดต่อและอยู่ระหว่างการเจรจาขอใช้แหล่งเงินก ผ่อนปรนจาก JBIC และ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการได โดยให้ผลตอบแทนทางธุรกิจเป็นไปตามหลักเกณฑ์การลงทุนของเอ็กโก ซึ่งยึดถือหลักการ เพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้นเป็นหลักสำคัญ จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายวรวิทย์ ขำขนิษฐ์) กรรมการผู้จัดการ