11 สิงหาคม 2543
การเงินไตรมาสที่2 ปี 2543
เงินกู้ยืมสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ 17,254,625 15,974,961
เงินกู้ยืมสกุลเงินบาท 2,398,250 2,491,750 - -
19,652,875 18,466,711 - -
หัก เงินกู้ยืมที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี (1,693,003) (1,447,976) - -
เงินกู้ยืมระยะยาว สุทธิ 17,959,872 17,018,735 - -
8 เงินกู้ยืมระยะยาว (ต่อ)
เงินกู้ยืมของบริษัทย่อยของบริษัทฯ ส่วนใหญ่เป็นของบริษัท ผลิตไฟฟ้าระยอง จำกัด และบริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด ตามเงื่อนไข
ของสัญญา Master Agreement ของบริษัทย่อยทั้งสอง มีข้อกำหนดให้บริษัทย่อยทั้งสองกันเงินสำรองจากรายได้ค่าขายไฟฟ้าสำหรับ
ภาระหนี้สินและมีเงื่อนไขต่างๆ ตามที่ระบุในสัญญา โดยสำรองในรูปของเงินฝากธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อการชำระคืนเงินต้น
และดอกเบี้ยที่จะถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี นอกจากนั้น บริษัทย่อยทั้งสองแห่งยังต้องกันเงินสำรองเพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลก
เปลี่ยนไว้เช่นเดียวกัน
นอกจากนั้นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า สัญญาซื้อขายทรัพย์สิน สัญญาการบำรุงรักษาหลัก กรมธรรม์ประกันภัย และสัญญาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
กับเจ้าหนี้เงินกู้ถูกวางเป็นหลักประกันตามเงื่อนไขภายใต้สัญญา Master Agreement ของบริษัทย่อยทั้งสอง
รายละเอียดเงินกู้ยืมระยะยาวของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งของกิจการร่วมค้าสรุปได้ดังนี้
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ ระยะเวลา
วงเงินกู้ยืม 31 ธันวาคม พ.ศ. 2542 จ่ายคืนเงินต้น อัตราดอกเบี้ย
ล้าน ล้าน (ปี) (ร้อยละต่อปี)
79 ดอลล่าร์สหรัฐฯ 63.5 12 LIBOR บวกอัตราส่วนเพิ่ม
เงินกู้ยืมดังกล่าว ค้ำประกันโดยการจดจำนองที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้าง เครื่องจักรและอุปกรณ์ทั้งหมดของโครงการ และจำนำเงิน
ฝากธนาคารและเงินฝากสถาบันการเงินของบริษัทย่อยดังกล่าวเป็นหลักประกัน
9 หุ้นกู้
หุ้นกู้เป็นเงินกู้ยืมสกุลเงินบาทของบริษัทฯ และบริษัทย่อยสองแห่งของบริษัทฯ ดังนี้
งบการเงิน
งบการเงินรวม ของบริษัทฯ
30 มิถุนายน 31 ธันวาคม 30 มิถุนายน 31 ธันวาคม
พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2542
พันบาท พันบาท พันบาท พันบาท
หุ้นกู้ 13,716,907 13,860,478 5,000,000 5,000,000
หัก ส่วนของหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี (917,281) (390,660) (542,650) -
12,799,626 13,469,818 4,457,350 5,000,000
บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ตามที่ระบุในสัญญา และบริษัทย่อยทั้งสองแห่งของบริษัทฯ (บริษัท ผลิตไฟฟ้าระยอง จำกัด และ
บริษัทผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด) ต้องกันเงินสำรองสำหรับภาระหนี้สินเพื่อการชำระคืนเงินต้นและจ่ายดอกเบี้ยที่จะถึงกำหนดชำระภาย
ในหนึ่งปี รวมทั้งการวางหลักประกันด้วยสินทรัพย์และสัญญาต่างๆ เช่นเดียวกับที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 4 และ 8
10 ทุนเรือนหุ้นและส่วนเกินมูลค่าหุ้น
สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่
30 มิถุนายน พ.ศ. 2543 จำนวนหุ้น หุ้นสามัญ ส่วนเกินมูลค่าหุ้น รวม
พันบาท พันบาท พันบาท
ณ วันต้นงวด 524,271,100 5,242,711 8,557,422 13,800,133
การออกหุ้น 126,000 1,260 2,520 3,780
ณ วันสิ้นงวด 524,397,100 5,243,971 8,559,942 13,803,913
ในเดือนเมษายนพนักงานของกลุ่มบริษัทได้ใช้สิทธิในการซื้อหุ้น warrant จำนวน 126,000 หุ้นในราคาหุ้นละ 30 บาท ณ วันที่ 30
มิถุนายน พ.ศ. 2543 บริษัทฯ ได้รับชำระเรียบร้อยแล้ว
11 การซื้อธุรกิจ
(ก) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2543 บริษัทฯ ได้ซื้อบริษัท กัลฟ์อิเล็คตริก จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้า
และจดทะเบียนในประเทศไทยในสัดส่วนร้อยละ50 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด ตามสัญญาซื้อขายหุ้นลงวันที่ 31 พฤษภาคม
พ.ศ. 2543 สิ่งตอบแทนที่ใช้ในการซื้อเป็นเงินสดจำนวน 1,050 ล้านบาทซึ่งจ่ายในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2543 มูลค่าตามบัญชีของ
สินทรัพย์สุทธิ ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2543 จำนวน 796.26 ล้านบาทถือเป็นมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิที่ได้รับ ณ วันที่
ซื้อ ค่าความนิยมที่เกิดขึ้นจำนวน 253.74 ล้านบาท ตัดจำหน่ายด้วยวิธีเส้นตรงภายในระยะเวลา 20 ปี จำนวนส่วนแบ่งของรายได้
และกำไรจากการดำเนินงานที่กลุ่มบริษัทได้รับสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีนับตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2543 จนถึงวันที่ 30
มิถุนายน พ.ศ. 2543 ไม่มีนัยสำคัญ
รายละเอียดของสินทรัพย์สุทธิที่ซื้อมาที่แสดงในงบการเงินรวมของบริษัทฯ และค่าความนิยมมีดังต่อไปนี้
พันบาท
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ (หมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 6) 1,763,407
เงินกู้ยืม (หมายเหตุหมายเหตุประกอบงบการเงิน ข้อ 8) (1,246,360)
สินทรัพย์อื่นหักด้วยหนี้สิน 350,148
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (70,939)
มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์สุทธิ 796,256
ค่าความนิยม 253,744
สิ่งที่ใช้ตอบแทนในการซื้อ 1,050,000
11 การซื้อธุรกิจ (ต่อ)
(ข) ในไตรมาสที่สามของปี พ.ศ. 2542 บริษัทฯ ได้ซื้อหุ้นสามัญจำนวน 24,150,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ของบริษัท เอ็ก
คอมธารา จำกัด เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 241 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของหุ้นทุนจดทะเบียนทั้งหมด บริษัทดังกล่าวยัง
มิได้เริ่มดำเนินการตามปกติ สิ่งตอบแทนที่ใช้ในการซื้อเป็นเงินสดจำนวน 398 ล้านบาทซึ่งได้จ่ายชำระเต็มจำนวนในงวดนี้ ค่า
ความนิยมที่เกิดขึ้นจำนวน 157 ล้านบาท ตัดจำหน่ายด้วยวิธีเส้นตรงตามอายุการใช้งานของสินทรัพย์
(ค) เมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2543 บริษัท เอ็กโก อินเตอร์เนชั่นแนล บี วี ไอ จำกัดได้จัดตั้งขึ้นใน British Virgin Islands มีทุนจด
ทะเบียนทั้งสิ้น 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หุ้นทั้งหมดของบริษัทถือโดยบริษัทฯ บริษัทนี้ยังมิได้เริ่มดำเนินกิจการ
ตามปกติ
12 การขายกิจการ
ตามสัญญาซื้อขายหุ้นของบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง (บริษัท เอ็กโก เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เซอร์วิส จำกัด) ลงวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2543 บริษัท
ย่อยดังกล่าวได้ขายเงินลงทุนที่มีอยู่ในบริษัท เอสโก วู้ด จำกัด (เอสโก วู้ด) ในราคา 1 บาท มูลค่าสุทธิของเงินลงทุนในบริษัท เอสโก
วู้ด จำกัด ตามวิธีส่วนได้เสีย ณ วันที่ขาย ไม่มีมูลค่า
นอกจากนั้น เอสโก วู้ดได้ชำระคืนหนี้สินบางส่วนเป็นจำนวนเงิน 13 ล้านบาท ให้กับบริษัท เอ็กโก เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด
และทำสัญญากู้ยืมเงินในส่วนที่เหลือจำนวน 26 ล้านบาทกับบริษัท เอ็กโก เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ดังนั้น ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะ
สูญที่ได้เคยถูกบันทึกไว้เต็มจำนวนสำหรับเงินให้กู้ยืมจำนวน 39 ล้านบาทได้ถูกกลับรายการ ทำให้เกิดกำไรจากการกลับรายการดัง
กล่าวเป็นจำนวนเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม จากผลของสัญญาดังกล่าว ทำให้กลุ่มบริษัทมีภาระผูกพันในการขยายระยะเวลาของสัญญาบริการซ่อมระหว่างบริษัทย่อย
สองแห่งของบริษัทฯ กับเอสโก วู้ด ทั้งนี้เงื่อนไขการจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมดังกล่าวข้างต้นขึ้นอยู่กับรายได้ที่เอสโก วู้ดจะได้รับภายใต้
สัญญาให้บริการซ่อม และเงื่อนไขอื่นๆ ที่ระบุไว้ในสัญญา
13 รายการกับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท ซี แอล พี เพาเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีอิทธิพลอย่างเป็นสาระสำคัญต่อการดำเนิน
งานของบริษัทฯ ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน หมายถึง ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ บริษัทย่อย กิจการร่วมค้าและบริษัทร่วมทั้งหมดที่เป็นของบริษัทฯ รวมทั้งกิจ
การที่เกี่ยวข้องกับบริษัทย่อย กิจการร่วมค้าและบริษัทร่วมดังกล่าว
รายละเอียดของบริษัทย่อย กิจการร่วมค้าและบริษัทร่วมได้แสดงไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาลข้อ 5
รายการต่อไปนี้เป็นรายการที่มีสาระสำคัญกับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน
13 รายการกับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน (ต่อ)
ก) รายได้ค่าขายไฟฟ้า
งบการเงินรวม
สำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 30 มิถุนายน
พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2542
งวดสามเดือน งวดหกเดือน งวดสามเดือน งวดหกเดือน
พันบาท พันบาท พันบาท พันบาท
รายได้ค่าขายไฟฟ้า
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 2,285,061 4,632,482 2,120,071 4,272,805
รายได้ค่าขายไฟฟ้ากำหนดตามหลักเกณฑ์ต้นทุนบวกกำไรส่วนเพิ่ม ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์
พ.ศ. 2537 และวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2539
ทั้งนี้รายได้จากการขายไฟฟ้าได้รวมส่วนที่ได้รับชดเชยผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวนเงินประมาณ 215 ล้านบาทและ
408 ล้านบาท สำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2543 ตามลำดับ (สำหรับงวดงวดสามเดือนและหก
เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2542 จำนวนเงินประมาณ 159 ล้านบาท และ 328 ล้านบาท ตามลำดับ)
ข) ค่าบริการซ่อมบำรุงหลัก
งบการเงินรวม
สำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 30 มิถุนายน
พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2542
(ปรับปรุงใหม่)
งวดสามเดือน งวดหกเดือน งวดสามเดือน งวดหกเดือน
พันบาท พันบาท พันบาท พันบาท
ค่าบริการซ่อมบำรุงรักษาหลัก
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 67,999 91,965 33,160 134,249
ค่าบริการซ่อมบำรุงรักษาหลัก กำหนดตามหลักเกณฑ์ต้นทุนบวกกำไรส่วนเพิ่ม
13 รายการกับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน (ต่อ)
ค) ยอดค้างชำระที่เกิดจากการขายไฟฟ้า ดอกเบี้ยค้างรับ ดอกเบี้ยค้างจ่าย และการรับบริการ
งบการเงิน
งบการเงินรวม ของบริษัทฯ
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 31 ธันวาคม 30 มิถุนายน 31 ธันวาคม
พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2542
พันบาท พันบาท พันบาท พันบาท
ลูกหนี้การค้า
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 1,658,103 1,434,571 - -
ดอกเบี้ยค้างรับ
- บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด - - 561 608
- บริษัท เอ็กโกร่วมทุนและ พัฒนา จำกัด - - 1,423 666
- บริษัท เอ็กโกเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด - - 1,249 668
เจ้าหนี้การค้า
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 8,521 75,255 -
ดอกเบี้ยค้างจ่าย
- บริษัท ผลิตไฟฟ้าระยอง จำกัด - - 776 787
- บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด - - 3,846 3,934
ลูกหนี้การค้า ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2543 และวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2542 สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้
ไม่เกิน 3 เดือน 1,644,330 1,422,773 - -
3 - 6 เดือน 7,133 6,516 - -
6 - 12 เดือน 11,227 96 - -
เกินกว่า 12 เดือน 2,054 5,186 - -
1,664,744 1,434,571 - -
หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (6,641) - - -
1,658,103 1,434,571 - -
13 รายการกับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน (ต่อ)
ง) เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อยและบริษัทร่วม
งบการเงิน
งบการเงินรวม ของบริษัทฯ
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 31 ธันวาคม 30 มิถุนายน 31 ธันวาคม
พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2542
พันบาท พันบาท พันบาท พันบาท
บริษัทย่อย
บริษัท เอ็กโกเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด - - - 50,000
บริษัท เอ็กโกร่วมทุนและพัฒนา จำกัด - - 25,200 25,200
บริษัทร่วม
บริษัท อมตะเอ็กโกเพาเวอร์ จำกัด 32,490 32,490 - -
32,490 32,490 25,200 75,200
เงินให้กู้ยืมเหล่านี้เป็นการให้กู้ยืมตามการค้าปกติ อนึ่ง การชำระคืนดอกเบี้ยและเงินต้นของเงินให้กู้ยืมแก่บริษัท อมตะเอ็กโกเพาเวอร์
จำกัด มีข้อจำกัดจนกว่าจะมีเงินสำรองตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญาการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง
จ) เงินลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทย่อยและหุ้นกู้ของบริษัทที่ถือโดยบริษัทย่อย
งบการเงิน
งบการเงินรวม ของบริษัทฯ
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 31 ธันวาคม 30 มิถุนายน 31 ธันวาคม
พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2542
พันบาท พันบาท พันบาท พันบาท
เงินลงทุนในหุ้นกู้
- บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด - - 73,815 76,153
หุ้นกู้ของบริษัทฯ ที่ถือโดย
- บริษัท ผลิตไฟฟ้าระยอง จำกัด - - 50,000 50,000
- บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด - - 250,000 250,000
14 เงินปันผล
ตามมติที่ประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2543 ได้อนุมัติให้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนิน
งานของบริษัทฯ ในอัตรา 2 บาทต่อหุ้น จำนวน 524,271,100 หุ้น รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นจำนวนเงิน 1,048 ล้านบาท เงินปันผล
ดังกล่าวได้จ่ายให้ผู้ถือหุ้นในระหว่างงวด
15 ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น
ข้อตกลงในการให้ความช่วยเหลือ (Sponsor Support Agreement) และสัญญาค้ำประกัน
(ก) ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2543 บริษัทฯ มีภาระผูกพันจากการทำสัญญาค้ำประกันให้แก่บริษัทย่อยและบริษัทร่วม ดังต่อไปนี้
สกุลเงิน (ล้าน)
บาท ดอลล่าร์สหรัฐฯ
การซื้อวัตถุดิบ - 5
การค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญา 113 -
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ทำสัญญาค้ำประกันร่วมแก่บริษัทร่วมแห่งหนึ่งในส่วนของการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตามเงื่อนไขของ
สัญญาเงินกู้ โดยภาระผูกพันภายใต้สัญญาค้ำประกันดังกล่าวจะไม่เกินวงเงิน 5,061,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ
นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังมีภาระผูกพันจากการทำสัญญาค้ำประกันกับธนาคารต่างประเทศแห่งหนึ่งเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัท Conal
Holdings Corporation ซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ในประเทศฟิลิปปินส์ เป็นจำนวนเงิน 1.2 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีการ
บริหารภาระผูกพันให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์บรรษัทภิบาลที่ดี (Good Corporate Governance) โดยบริษัทฯ ได้ตั้งบัญชีสำรองเพื่อภาระ
ผูกพันในการชำระหนี้ไว้ในอัตราร้อยละ 25 ตามภาระค้ำประกันของบริษัทฯ ที่มีอยู่กับบริษัทย่อยและบริษัทร่วมเพื่อลดความเสี่ยงและ
สามารถนำเงินที่สำรองนี้มาบริหารให้ผลตอบแทนกลับมาในรูปดอกเบี้ยควบคู่กับความมั่นคงในการรับภาระค้ำประกันหรือภาระผูกพัน
ดังกล่าว
ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2543 บริษัทฯ ได้ฝากเงินเพื่อเป็นเงินสำรองไว้จำนวน 131.50 ล้านบาท (ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2542
จำนวน 141.50 ล้านบาท)
สัญญาร่วมทุน (Shareholders Agreements)
(ข) เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2543 บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญา Share Purchase Agreement กับบริษัท Alsons Consolidated
Resources จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศฟิลิปปินส์ ตามรายละเอียดของสัญญา บริษัทฯ ได้แสดงเจตจำนงที่จะซื้อ
หุ้นสามัญจำนวน 3,200,000 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 ฟิลิปปินส์เปโซ) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 ของหุ้นที่จดทะเบียนทั้ง
หมดของบริษัท Conal Holdings Corporation ซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ในประเทศฟิลิปปินส์ มูลค่าของหุ้นที่จะซื้อขายตามสัญญาเป็น
จำนวนเงินทั้งสิ้น 24 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยการชำระเงินจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญา
(ค) บริษัทฯ ได้ลงนามใน Head of Agreement ในการเข้าร่วมพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำเทิน 2 ทำให้บริษัทฯ มีภาระผูกพัน
ตามเงื่อนไขของสัญญาดังกล่าวที่จะต้องจ่ายค่าพัฒนาโครงการเป็นจำนวนเงิน 13.5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยบริษัทฯ สามารถ
เรียกคืนค่าพัฒนาโครงการได้เป็นจำนวนเงิน 7.46 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2543 บริษัทฯ ได้จ่ายค่าพัฒนา
โครงการดังกล่าวแล้วเป็นจำนวนเงิน 6.75 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งบันทึกเป็นเงินลงทุนระยะยาวอื่น
15 ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น (ต่อ)
สัญญาร่วมทุน (Shareholders Agreements) (ต่อ)
(ง) บริษัท เอ็กคอมธารา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยแห่งหนึ่งของบริษัทฯ ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินระยะยาวจากบรรษัท เงินทุนอุตสาหกรรม
แห่งประเทศไทย จำกัด เป็นจำนวนเงิน 300 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2543 บริษัทย่อยดังกล่าว
มีการกู้ยืมเงินตามสัญญาเป็นจำนวนเงิน 73 ล้านบาท
(จ) ในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2543 บริษัทฯ ได้ทำสัญญา Shareholders Agreement กับบริษัท Electric Power Development จำกัด ซึ่ง
เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศญี่ปุ่น ตามเงื่อนไขของสัญญาบริษัทฯ จะต้องซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 74 ของบริษัทที่จัดตั้ง
ใหม่ ซึ่งต่อมาได้จดทะเบียนจัดตั้งแล้วเป็นบริษัท เอ็กโก กรีน เอ็นเนอร์ยี จำกัด โดยมูลค่าของหุ้นที่ทาง บริษัทฯ จะต้องลงทุนคิด
เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 407 ล้านบาทและการชำระเงินจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการจัดตั้งบริษัทดังกล่าวและการปฏิบัติตามเงื่อนไขต่าง
ๆ ของสัญญา บริษัท เอ็กโก กรีน เอ็นเนอร์ยี จำกัด ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2543 มีทุนจดทะเบียน 74,000 บาท
สัญญาซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า
(ฉ) ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2543 บริษัทย่อยสองแห่งของบริษัทฯ และบริษัทย่อยแห่งหนึ่งของกิจการร่วมค้ามิได้ทำสัญญาซื้อเงิน
ตราต่างประเทศล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เปลี่ยนแปลงสำหรับเงินกู้ยืมระยะยาวที่เป็นเงินตราต่าง
ประเทศเป็นจำนวนเงิน 417.5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทย่อยทั้งสองของบริษัทฯ จะได้รับชดเชยผลกระทบจาก
ความเสี่ยงดังกล่าวโดยส่วนใหญ่จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตาม "The First Amendment to Power Purchase
Agreement" ลงวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2541 ดังนั้น เงินกู้ยืมระยะยาวที่เป็นเงินตราต่างประเทศจำนวน 63.5 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
ของบริษัทย่อยของกิจการร่วมค้าจึงยังมิได้ป้องกันความเสี่ยงโดยสัญญาหรือเครื่องมือทางการเงินใด ๆ
สัญญาบริการและซื้อวัสดุสำรองคลัง
(ช) บริษัทย่อยสองแห่งของบริษัทฯ ได้ทำสัญญาประกันภัยกับบริษัทประกันภัยภายในประเทศสองแห่ง สัญญาเหล่านั้นมีวัตถุ
ประสงค์เพื่อประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้า อุปกรณ์ที่ใช้งานในโรงไฟฟ้าตามที่ระบุในสัญญา ผลเสียหายที่
อาจเกิดขึ้นภายหลัง และประกันต่อบุคคลที่สาม เป็นระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2542 โดยบริษัทย่อยทั้งสอง
จะต้องชำระค่าเบี้ยประกันปีแรกเป็นจำนวนเงิน 1,167,885 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ค่าเบี้ยประกัน สำหรับสองปีถัดไปได้มีการกำหนด
ไว้ล่วงหน้า โดยมีเงื่อนไขที่ว่าบริษัทย่อยทั้งสองแห่งจะไม่เรียกชำระค่าเสียหายเกินกว่าวงเงินที่กำหนดไว้ ภายในระยะเวลาที่มี
การประกันภัย
(ซ) บริษัทย่อยแห่งหนึ่งของบริษัทฯ ได้ทำสัญญาบริการซ่อมแซมวัสดุสำรองคลังกับผู้ให้บริการสองราย ตามเงื่อนไขของสัญญา
บริษัทย่อยดังกล่าวจะต้องให้คู่สัญญาซ่อมแซมวัสดุสำรองคลังตามที่ระบุในสัญญา สัญญาดังกล่าวมีระยะเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่เดือน
มกราคม พ.ศ. 2542 โดยมีมูลค่าทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 49 ล้านบาท และ 895,438 ปอนด์สเตอร์ลิง
นอกจากนั้น บริษัทย่อยสองแห่งของบริษัทฯ ยังได้ทำสัญญาบริการซ่อมแซมชิ้นส่วนหลักของแก๊สเทอร์ไบน์กับผู้ให้บริการราย
หนึ่งซึ่งเดิมเป็นบริษัทร่วมของบริษัทฯ ตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทย่อยสองแห่งดังกล่าวจะต้องให้คู่สัญญาซ่อมแซมชิ้นส่วน
หลักของแก๊สเทอร์ไบน์ตามที่ระบุในสัญญา สัญญาดังกล่าวมีระยะเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2543 และมกราคม
พ.ศ. 2544 โดยมีมูลค่าทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 14 ล้านบาท และ 36 ล้านบาท ตามลำดับ
15 ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น (ต่อ)
สัญญาบริการและซื้อวัสดุสำรองคลัง (ต่อ)
(ฌ) บริษัทย่อยสองแห่งของบริษัทฯ ได้ทำสัญญาระยะยาวในการซื้อวัสดุสำรองหลักกับผู้ขายรายหนึ่ง ตามเงื่อนไขของสัญญา
บริษัทย่อยทั้งสองแห่งจะต้องซื้อวัสดุสำรองหลักตามที่ระบุในสัญญา สัญญาดังกล่าวมีระยะเวลา 6 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ในสัญญา
โดยสัญญาดังกล่าวมีมูลค่าทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 42 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และ 16.12 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
สัญญาที่สำคัญของกิจการร่วมค้า
บริษัทย่อยทั้งสองแห่งของกิจการร่วมค้ามีสัญญาที่สำคัญ ดังต่อไปนี้
(ญ) กิจการร่วมค้าได้ทำสัญญาซื้อขายกระแสไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งสัญญาดังกล่าวกำหนดให้บริษัทย่อยดัง
กล่าวต้องเริ่มจัดจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยภายในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2541 โดยปริมาณการ
ซื้อขายและอัตราค่ากระแสไฟฟ้าต้องเป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญา โดยสัญญาดังกล่าวมีระยะเวลา ประมาณ 21 ปี และบริษัท
ย่อยดังกล่าวต้องยื่นหลักประกันในรูปของหนังสือค้ำประกันจากธนาคารเป็นจำนวนเงิน 163.1 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นหลักประกัน
การยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนด และบริษัทย่อยดังกล่าวจะได้รับคืนหลักประกันนั้นเมื่อครบตามอายุสัญญาแล้ว
(ฎ) บริษัทย่อยแห่งหนึ่งของกิจการร่วมค้าได้ทำสัญญาซื้อขายก๊าซกับการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย โดยสัญญาดังกล่าวมีอายุสัญญา
นับตั้งแต่วันที่เริ่มใช้ก๊าซเพื่อการค้า คือวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2541 เป็นระยะเวลา 16 ปี โดยปริมาณการซื้อขายและราคาก๊าซให้
เป็นไปตามที่ระบุไว้ในสัญญา ซึ่งคู่สัญญาสามารถต่ออายุสัญญาออกไปได้อีก 5 ปี นับจากวันครบกำหนด ทั้งนี้ต้องเป็นไปตาม
เงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา
(ฏ) ในระหว่างปี พ.ศ. 2540 บริษัทย่อยแห่งหนึ่งของกิจการร่วมค้าได้ทำสัญญาซื้อขายกระแสไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ
ไทย โดยเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายกำหนดให้บริษัทย่อยดังกล่าวต้องยื่นหลักประกันการยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนด และบริษัท
ย่อยดังกล่าวจะได้รับคืนหลักประกันดังกล่าวเมื่อครบอายุสัญญาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2543 บริษัทย่อยดังกล่าวยังมิได้ประกอบธุรกิจ และกำลังอยู่ในระหว่างรอการอนุมัติเพื่อ
ดำเนินโครงการต่อไปภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการประชาพิจารณ์เรื่องความเหมาะสมของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ฝ่ายบริหาร
ของบริษัทย่อยดังกล่าวเชื่อว่า การก่อสร้างสามารถดำเนินการต่อไปได้ นอกจากนั้นในกรณีที่โครงการถูกยกเลิก บริษัทย่อยดัง
กล่าวสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากการยกเลิกโครงที่ไม่ใช่ความผิดของบริษัทย่อยดังกล่าวได้จากการไฟฟ้าผลิตแห่งประเทศ
ไทย
ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2543 บริษัทย่อยสองแห่งของกิจการร่วมค้ามีหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารเพื่อเป็นหลักประกัน
ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับรายการข้อ (ญ) และ (ฏ) เป็นจำนวนเงินรวม 554.2 ล้านบาท
(ฐ) ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2543 กิจการร่วมค้ามีภาระผูกพันเกี่ยวกับสัญญาเช่าอาคารเครื่องใช้สำนักงานและค่าบริการที่ต้องจ่ายใน
ปี พ.ศ. 2543 ถึง พ.ศ. 2546 เป็นจำนวนเงินประมาณ 17.77 ล้านบาท
16 เหตุการณ์ภายหลังวันที่ในงบการเงิน
(ก) ตามมติคณะกรรมการของบริษัทฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 ได้อนุมัติในหลักการให้ดำเนินการขายหุ้น
ของบริษัท เอ็กโกธุรกิจเหมือง จำกัด และบริษัท เอ็กคอมธารา จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 70 ในทั้งสองบริษัทบนเงื่อนไข
ที่บริษัทฯ จะต้องได้รับผลตอบแทนที่ดี ทั้งนี้เพราะบริษัทฯ มุ่งเน้นที่จะลงทุนในธุรกิจหลักเป็นสำคัญ และมีความประสงค์ที่จะ
ถอนตัวจากการลงทุนในธุรกิจที่นอกเหนือจากธุรกิจหลัก
ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2543 สินทรัพย์สุทธิของบริษัทย่อยทั้งสองแห่งคือ บริษัท เอ็กโกธุรกิจเหมือง จำกัด และบริษัท เอ็กคอม
ธารา จำกัด มีจำนวน 22.21 ล้านบาท และ 274.39 ล้านบาท ตามลำดับ และผลขาดทุนสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30
มิถุนายน พ.ศ. 2543 มีจำนวน 6.68 ล้านบาท และ 2.23 ล้านบทา ตามลำดับ
(ข) ตามมติคณะกรรมการของบริษัทฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2543 ได้อนุมัติให้มีการเพิ่มเงินลงทุนใน EGCO
International B.V.I. เป็นจำนวนเงิน 24 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งบริษัทฯ ได้ชำระเงินเพิ่มทุนจำนวนดังกล่าวแล้วในเดือน
กรกฎาคม พ.ศ. 2543