02 มีนาคม 2544
ชี้แจงผลการดำเนินงาน
ที่ บผฟ. 320 / 107 1 มีนาคม 2544
เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2543 และผลการดำเนินงานที่เปลี่ยนแปลงจากงวดเดียวกัน
ของปี 2542 เกินกว่าร้อยละ 20
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อ้างถึง ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการจัดทำและส่งงบการเงิน
และรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน(ฉบับที่ 1) พ.ศ.2541
สิ่งที่ส่งมาด้วย งบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2543 ของบริษัทผลิตไฟฟ้าจำกัด(มหาชน)
และงบการเงินรวมสิ้นสุดเพียงวันเดียวกันของ บริษัท ผลิต ไฟฟ้าจำกัด(มหาชน)และ
บริษัทย่อย
บริษัทผลิตไฟฟ้าจำกัด(มหาชน) ขอรายงานผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2543
รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ซึ่งตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่อ้างถึงข้อ 4(7)กำหนดว่ากรณีที่ผลการดำเนินงาน
ตามงบกำไรขาดทุนที่บริษัทจดทะเบียนนำส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ เปลี่ยนแปลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเกินกว่า ร้อยละ 20
ให้บริษัทจดทะเบียน ชี้แจงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ พร้อมกับการนำส่งงบการเงินนั้น
บริษัทฯ ขอชี้แจงผลการดำเนินงานตามงบกำไรขาดทุนรวม ซึ่งข้อมูลการดำเนินงานประจำปีสิ้นสุดเพียงวันที่
31 ธันวาคม 2543 กำไรสุทธิ 1,216.74 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานประจำปี 2542 ซึ่งกำไรสุทธิ
เท่ากับ 2,647.95 ล้านบาท แล้วกำไรสุทธิลดลง 1,431.21 ล้านบาท หรือร้อยละ 54.05 สาเหตุที่กำไรสุทธิลดลง
เนื่องจาก:
1. ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง ซึ่งทำให้บริษัทฯ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 1,478 ล้านบาท
ในปี 2543 เพิ่มขึ้นจากปี 2542 ซึ่งมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 241 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีกำไรลด
ลงเนื่องจากผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 1,237 ล้านบาท นอกจากนี้ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้
เกิดขึ้นจริง ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ เกิดส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก บริษัทร่วม จำนวน 77 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนเพิ่มขึ้นจำนวน
85 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2542 ที่มีส่วนแบ่งผลกำไร 8 ล้านบาท
2. ค่าใช้จ่ายรวม จำนวน 7,779 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,207 ล้านบาทหรือร้อยละ 18 ส่วนใหญ่มาจาก:
* ต้นทุนขาย จำนวน 3,312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 625 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.26 สาเหตุหลักเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการ
ซ่อมบำรุงรักษาหลักของบริษัทย่อยสองแห่ง ได้แก่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าระยอง จำกัด (บฟร.) และบริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด (บฟข.)
เพิ่มขึ้น 365 ล้านบาทหรือร้อยละ 73 นอกจากนี้ในปี 2543 บริษัทได้ลงทุนในกิจการร่วมค้าสองแห่ง ได้แก่ บริษัท กัลฟ์อิเล็คตริก
จำกัด (มหาชน) (กัลฟ์) และ Conal Holding Corporation (Conal) ซึ่งมีต้นทุนขายจำนวน 254 ล้านบาทและ 17 ล้านบาท
ตามลำดับ
* ค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 1,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 205 ล้านบาทหรือร้อยละ 23.17 โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก
ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาโครงการน้ำเทิน 2 และยะลา จำนวน 377 ล้านบาท และ 9 ล้านบาท ตามลำดับ และค่าใช้จ่ายในการบริหาร
ของ กัลฟ์ จำนวน 11 ล้านบาทและ Conal จำนวน 134 ล้านบาท ในขณะที่ ปี2542 มีค่าใช้จ่ายก่อนการดำเนินการของบริษัทย่อยได้แก่
บริษัท เอ็กคอมธารา จำกัด 179 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายจัดหาเงินกู้และ Refinance ของบริษัทและบฟร. 70 ล้านบาท และค่าใช้จ่าย
ในการพัฒนาโครงการของบริษัทย่อยสองแห่งได้แก่ บริษัท เอ็กโกธุรกิจเหมือง จำกัดและ บริษัท เอ็กโก เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (เอสโก)
162 ล้านบาท
* ดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 3,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 341 ล้านบาทหรือร้อยละ 11.43 โดยส่วนหนึ่งเกิดจากดอกเบี้ยหุ้นกู้ 5,000 ล้านบาท
จำนวน 321 ล้านบาท ดอกเบี้ยจ่ายของกัลฟ์ และ Conal จำนวน 76 ล้านบาท และจำนวน 88 ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะที่
ดอกเบี้ยจ่ายของบฟร. และบฟข. ลดลง 144 ล้านบาท
3) รายได้อันประกอบด้วยค่าขายไฟฟ้า ค่าบริการ ดอกเบี้ยรับและรายได้อื่นๆ จำนวน 10,551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,099 ล้านบาทหรือ
ร้อยละ 11.63 ส่วนใหญ่มาจาก:
* รายได้ค่าไฟฟ้า จำนวน 9,581 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,143 ล้านบาทหรือ ร้อยละ 13.54 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากบฟร. และบฟข. จำนวน 79
ล้านบาท และ 365 ล้านบาท ตามลำดับ(จากหน่วยไฟฟ้าจากบฟร. 7,847 M.kWh และ บฟข. 5,582 M.kWh ) โดยสาเหตุหลัก
คืออัตราค่าไฟฟ้าของบฟข. สูงกว่าปี 2542 เป็นอัตราที่กำหนดไว้เพื่อเป็นการสะท้อนต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าปี 2542 เช่นกันและ
เพื่อให้ผลตอบแทนการลงทุนเป็นไปตาม สัญญาขายไฟ (PPA) และในปี 2543 ได้รวมรายได้ค่าไฟฟ้าของกัลฟ์และ Conal จำนวน
357 ล้านบาทและ 342 ล้านบาท ตามลำดับ
* รายได้ค่าบริการ จำนวน 107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 3.87 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของการให้บริการบำรุงรักษา
และเดินเครื่องของเอสโก
* รายได้จากดอกเบี้ยรับและรายได้อื่น จำนวน 863 ล้านบาทลดลง 47 ล้านบาทหรือร้อยละ 5 เพราะว่ารายได้ปันผลรับจาก
เงินลงทุนในหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดและกองทุนฯ จำนวน 86 ล้านบาท ลดลง 106 ล้านบาทหรือ ร้อยละ 55.11
ในขณะที่ ดอกเบี้ยรับจำนวน 777 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.22
ทั้งนี้ หากผลการดำเนินงานประจำปี 2543 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 1,217 ล้านบาทไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,478 ล้านบาท
แล้ว จะมีกำไร 2,695 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิปี 2542 จำนวน 2,889 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
241 ล้านบาท จะทำให้บริษัทมีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ลดลงจำนวน 194 ล้านบาทหรือร้อยละ 6.72
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา)
รองกรรมการผู้จัดการสายบัญชีและการเงิน
ฝ่ายบัญชีและงบประมาณ
โทร. 998-5160