12 พฤศจิกายน 2544
ชี้แจงผลการดำเนินงาน
ที่ บผฟ. 320 / 488 12 พฤศจิกายน 2544
เรื่อง รายงานผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน 2544 และผลการดำเนินงานที่เปลี่ยนแปลงจากงวด
เดียวกัน ของปี 2543 เกินกว่าร้อยละ 20
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อ้างถึง ข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการจัดทำและส่ง
งบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน(ฉบับที่ 1) พ.ศ.2541
สิ่งที่ส่งมาด้วย งบการเงินประจำไตรมาสและประจำงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2544 ของบริษัทผลิตไฟฟ้าจำกัด(มหาชน)
และงบการเงินรวมสิ้นสุดเพียงวันเดียวกันของ บริษัท ผลิต ไฟฟ้าจำกัด(มหาชน)และบริษัทย่อย
บริษัทผลิตไฟฟ้าจำกัด(มหาชน) ขอรายงานผลการดำเนินงานประจำงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2544
รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ซึ่งตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่อ้างถึงข้อ 4(7)กำหนดว่ากรณีที่ผลการดำเนินงานตามงบ
กำไรขาดทุนที่บริษัทจดทะเบียนนำส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ เปลี่ยนแปลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเกินกว่า ร้อยละ 20 ให้บริษัทจดทะเบียน
ชี้แจงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ พร้อมกับการนำส่งงบการเงินนั้น
บริษัทฯ ขอชี้แจงผลการดำเนินงานตามงบกำไรขาดทุนรวม ซึ่งข้อมูลการดำเนินงานประจำงวดเก้าเดือนสิ้นสุดเพียงวันที่
30 กันยายน 2544 กำไรสุทธิ 2,307 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานประจำงวดเก้าเดือน 2543 ซึ่งกำไรสุทธิเท่ากับ
1,547 ล้านบาท แล้วกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 760 ล้านบาท หรือร้อยละ 49 สาเหตุที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เนื่องจาก:
1. ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง ซึ่งทำให้บริษัทฯขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 262 ล้านบาทในปี 2544
ลดลงจากปี 2543 ซึ่งมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 1,095 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากผลกระทบจาก
อัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 833 ล้านบาท
นอกจากนี้ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ เกิดส่วนแบ่งผลกำไรจาก บริษัทร่วมได้แก่บริษัท
อมตะเอ็กโกเพาเวอร์ จำกัด จำนวน 6 ล้านบาท ซึ่งกำไรเพิ่มขึ้นจำนวน 93 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2543 ที่มีส่วนแบ่งผลขาดทุน
87 ล้านบาท
2. รายได้อันประกอบด้วยค่าขายไฟฟ้า ค่าขายน้ำประปา ค่าบริการ ดอกเบี้ยรับและรายได้อื่นๆ จำนวน 8,831 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 986
ล้านบาทหรือ ร้อยละ 13 ส่วนใหญ่มาจาก
* รายได้ค่าไฟฟ้า จำนวน 7,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 804 ล้านบาทหรือ ร้อยละ 11.28 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรายได้ค่าไฟฟ้าของบริษัท
กัลฟ์อิเล็คตริก จำกัด(มหาชน)(กัลฟ์) และ Conal Holding Corporation (CONAL) จำนวน 420 ล้านบาทและ 660 ล้านบาท
ตามลำดับ ซึ่งได้นำมารวมในเก้าเดือนแรกนี้มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่รับรู้ไว้ 3 เดือนสำหรับ กัลฟ์ และ 1 เดือนสำหรับ
CONAL ในขณะที่ รายได้ค่าไฟฟ้าของ บริษัท ผลิตไฟฟ้าระยอง จำกัด(บฟร.) และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด(บฟข.) ลดลง
18 ล้านบาท และ 258 ตามลำดับ(จากหน่วยไฟฟ้าจาก บฟร. 4,677 M.kWh และ บฟข. 4,566 M.kWh) โดยสาเหตุหลักคือ
อัตราค่าไฟฟ้าของ บฟร.และ บฟข. กำหนดไว้ต่ำกว่าปี 2543 เพื่อเป็นการสะท้อนต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าปี 2543
และเพื่อให้ผลตอบแทนการลงทุนเป็นไปตามสัญญาขายไฟ(PPA)
* รายได้ค่าขายน้ำ จากบริษัท เอ็กคอมธารา จำกัด(เอ็กคอมธารา) จำนวน 61 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้ตั้งแต่ ก.พ. 2544
* รายได้ค่าบริการ จำนวน 106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 36.90 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของการให้บริการบำรุงรักษา
และเดินเครื่องของบริษัท เอ็กโกเอ็นจิเนียริ่งแอนด์เซอร์วิส จำกัด
* รายได้จากดอกเบี้ยรับและรายได้อื่น จำนวน 711 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 90 ล้านบาทหรือร้อยละ 14.49 เกิดจากเงินปันผลรับจากเงินลงทุน
ในบริษัทอื่นและกองทุนเปิด จำนวน 25 ล้านบาท และจำนวน 104 ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะที่ดอกเบี้ยรับสถาบันการเงินลดลง
39 ล้านบาท เนื่องจากนำเงินสดไปลงทุนในโครงการเพิ่มขึ้น
3. ค่าใช้จ่ายรวม จำนวน 6,108 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 983 ล้านบาทหรือร้อยละ 19.18 มาจาก
* ต้นทุนขาย จำนวน 2,862 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 636 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.57 สาเหตุหลักเนื่องจากต้นทุนขายของ บฟร.
(ซึ่งส่วนมากเกิดจากค่าซ่อมบำรุงรักษาหลัก) เพิ่มขึ้น 192 ล้านบาท ในขณะที่ต้นทุนขาย ของ บฟข. ลดลง 114 ล้านบาท
นอกจากนี้ในปี 2544 ได้รวมต้นทุนขาย 9 เดือนของกิจการร่วมค้า 2 แห่ง ได้แก่ กัลฟ์ และ CONAL ที่บริษัทได้ลงทุนไว้ในเดือนมิถุนายน
และเดือน กันยายนปี 2543 ตามลำดับ ทำให้ต้นทุนขายมากกว่าปี 2543 จำนวน 310 ล้านบาทและ 216 ล้านบาทตามลำดับ และ
ต้นทุนขายน้ำของ เอ็กคอมธารา จำนวน 32 ล้านบาท
* ต้นทุนบริการ จำนวน 61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.51
* ค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162 ล้านบาทหรือร้อยละ 37.80 โดยมีสาเหตุดังนี้
- ค่าใช้จ่ายในการบริหารงวดเก้าเดือนในปี 2544 เพิ่มขึ้นจากปี 2543 ของ กิจการร่วมค้า กัลฟ์ จำนวน 30 ล้านบาทและ CONAL
จำนวน 57 ล้านบาทและได้ตัดจ่ายค่านิยมจำนวน 10 ล้านบาทและ 21 ล้านบาท ตามลำดับ
- ค่าใช้จ่ายบริหารของบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่บริษัท ไทยแอลเอ็นจีเพาเวอร์ จำกัดและบริษัท ทีแอลพีโคเจนเนอร์เรชั่น จำกัด
ที่บริษัทฯได้ลงทุนในปี 2544 มีค่าใช้จ่ายบริหารเป็นเงิน 9 ล้านบาท และ 11 ล้านบาท ตามลำดับ
- ค่าใช้จ่ายบริหารของบริษัทย่อยอื่นๆ เพิ่มขึ้น 14 ล้านบาท
- นอกนั้นเป็นค่าใช้จ่ายบริหารของ บผฟ. ที่เพิ่มขึ้น 41 ล้านบาทซึ่งส่วนใหญ่มา จาก ค่าที่ปรึกษาฯ 8 ล้านบาท ค่าประชาสัมพันธ์
19 ล้านบาท และอื่นๆจำนวน 14 ล้านบาท
* ดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 2,563 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150 ล้านบาทหรือร้อยละ 6.22 โดยเกิดจากดอกเบี้ยจ่ายของ กัลฟ์ และ CONAL
ที่เพิ่มขึ้น จำนวน 47 ล้านบาท และจำนวน 140 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ดอกเบี้ยจ่ายของ เอ็กคอมธารา เพิ่มขึ้น18 ล้านบาท
ในขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทฯลดลง 20 ล้านบาท ดอกเบี้ยจ่ายของ บฟร และ บฟข. ลดลง 10 ล้านบาท และ 25 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ หากผลการดำเนินงานประจำงวดเก้าเดือน 2544 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 2,307 ล้านบาทไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 262 ล้านบาท
แล้ว จะมีกำไร 2,569 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิปี 2543 จำนวน 2,642 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
1,095 ล้านบาท จะทำให้บริษัทมีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ลดลงจำนวน 73 ล้านบาทหรือร้อยละ 2.75
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา)
รองกรรมการผู้จัดการสายบริหารและการเงิน
ทำการแทนกรรมการผู้จัดการ
ฝ่ายบัญชีและงบประมาณ
โทร. 998-5160