11 สิงหาคม 2552
บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร ครึ่งปีแรก 2552
เอ็กโก โคเจน ร้อยเอ็ด กรีน จีอีซี
(ไม่รวม จีพีจี)
1H52 1H51 1H52 1H51 1H52 1H51
รายได้รวม 940 960 148 139 - -
ค่าใช้จ่ายรวม 923 848 73 68 - -
กำไรก่อนส่วนแบ่งผลกำไร(ขาดทุน)
จากกิจการร่วมค้า 17 112 75 71 - -
ส่วนแบ่งผลกำไร(ขาดทุน)
จากกิจการร่วมค้า - - - - 163 171
กำไรสุทธิก่อน FX และ MI 17 112 75 71 163 171
เอพีบีพี และ
เออีพี * รวม
1H52 1H51 1H52 1H51 %เปลี่ยนแปลง
รายได้รวม - - 1,089 1,099 (1%)
ค่าใช้จ่ายรวม - - 996 915 9%
กำไรก่อนส่วนแบ่งผลกำไร(ขาดทุน)
จากกิจการร่วมค้า - - 92 184 (49%)
ส่วนแบ่งผลกำไร(ขาดทุน)
จากกิจการร่วมค้า - 41 163 212 (23%)
กำไรสุทธิก่อน FX และ MI - 41 255 396 (35%)
* ได้ขาย เอพีบีพี และ เออีพี ในเดือนพฤษภาคม 2551
* รายได้ค่าไฟฟ้าของธุรกิจเอสพีพี เป็นจำนวนรวม 1,083 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกัน
ปี 2551 จำนวน 7 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 1 ส่วนใหญ่มาจากเอ็กโก โคเจน มีรายได้ค่าไฟฟ้าลดลงจำนวน
17 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากรายได้ค่าไฟฟ้าจากลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมที่ลดลงจากการหยุดซ่อมตามแผน
และรายได้ค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของ ร้อยเอ็ด กรีน จำนวน 9 ล้านบาท เนื่องจากค่าพลังงานไฟฟ้า
(Energy Charge) ที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันเตาที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสัมพันธ์กับสูตรค่าไฟ
รายได้ค่าไฟฟ้าธุรกิจเอสพีพี: หน่วย : ล้านบาท
1H52 1H51 %เปลี่ยนแปลง
เอ็กโก โคเจน 937 953 (2%)
ร้อยเอ็ด กรีน 146 137 7%
รวมรายได้ค่าไฟฟ้า-เอสพีพี 1,083 1,090 (1%)
* รายได้จากดอกเบี้ยรับและรายได้อื่นๆ จำนวน 6 ล้านบาท ลดลง 3 ล้านบาท หรือร้อยละ 35
สาเหตุหลักเกิดจากดอกเบี้ยรับของ เอ็กโก โคเจน ที่ลดลง
* ต้นทุนขาย จำนวน 937 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2551 จำนวน 79 ล้านบาท
หรือร้อยละ 9 สาเหตุหลักจากต้นทุนขายของ เอ็กโก โคเจน เพิ่มขึ้น 73 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายในการซ่อม
บำรุงตามแผน
ต้นทุนขายธุรกิจเอสพีพี: หน่วย : ล้านบาท
1H52 1H51 %เปลี่ยนแปลง
เอ็กโก โคเจน 870 797 9%
ร้อยเอ็ด กรีน 67 61 10%
รวมต้นทุนขาย-เอสพีพี 937 858 9%
* ค่าใช้จ่ายในการบริหารและภาษี จำนวน 15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนจำนวน
0.5 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 3
* ค่าใช้จ่ายทางการเงิน จำนวน 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2
ล้านบาท หรือ ร้อยละ 4 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
* ส่วนแบ่งผลกำไรในส่วนได้เสียในกิจการร่วมค้า คือ จีอีซี (ไม่รวม จีพีจี) จำนวน 163 ล้านบาท
ซึ่งลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 8 ล้านบาท หรือร้อยละ 5 เนื่องจากค่าใช้จ่ายใน
การซ่อมบำรุงรักษาที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ได้ขายหุ้นใน เอพีบีพี และ เออีพี ในเดือนพฤษภาคม 2551
4) ธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าต่างประเทศ มีส่วนแบ่งผลกำไรในส่วนได้เสียในกิจการร่วมค้า คือ โคแนล
เอ็นทีพีซี และ เคซอน จำนวน 167 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 188
ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากการรับรู้ส่วนแบ่งผลกำไรจาก เคซอน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551
5) ธุรกิจอื่นๆ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 369 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน
201 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 35 ค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 254 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของ
ปีก่อน จำนวน 132 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 34 และไม่มีส่วนแบ่งผลกำไรในส่วนได้เสียในกิจการร่วมค้า
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทำให้ ลดลง 4 ล้านบาท หรือร้อยละ 100
โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
รายได้ ค่าใช้จ่าย และส่วนแบ่งผลกำไร (ขาดทุน) จากกิจการร่วมค้าของธุรกิจอื่นๆ:
หน่วย : ล้านบาท
เอสโก* เอ็กคอมธารา
1H52 1H51 1H52 1H51
รายได้รวม 236 451 133 119
ค่าใช้จ่ายรวม 195 352 59 34
กำไรก่อนส่วนแบ่งผลกำไร (ขาดทุน)
จากกิจการร่วมค้า 41 98 74 85
ส่วนแบ่งผลกำไร (ขาดทุน)
จากกิจการร่วมค้า - 4 - -
กำไรสุทธิก่อน FX และ MI 41 102 74 85
รวม
1H52 1H51 %เปลี่ยนแปลง
รายได้รวม 369 570 (35%)
ค่าใช้จ่ายรวม 254 387 (34%)
กำไรก่อนส่วนแบ่งผลกำไร (ขาดทุน)
จากกิจการร่วมค้า 114 183 (37%)
ส่วนแบ่งผลกำไร (ขาดทุน)
จากกิจการร่วมค้า - 4 (100%)
กำไรสุทธิก่อน FX และ MI 114 187 (39%)
* ได้ขาย อเมสโก ในเดือนพฤษภาคม 2551
* รายได้ค่าบริการ ของเอสโก จำนวน 232 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
จำนวน 200 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 46 สาเหตุหลักจากรายได้การให้บริการบำรุงรักษาและรายได้
จากการขายอุปกรณ์เครื่องจักรในการผลิตไฟฟ้าให้กับโรงไฟฟ้าต่างประเทศลดลง
* รายได้ค่าน้ำ ของเอ็กคอมธารา จำนวน 131 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
จำนวน 17 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 15 เนื่องจากอัตราค่าน้ำและปริมาณน้ำประปาขั้นต่ำ
(Minimum Take) ที่เพิ่มขึ้นตามสัญญาระยะยาวกับการประปาส่วนภูมิภาค
* รายได้จากดอกเบี้ยรับและรายได้อื่นๆ จำนวน 6 ล้านบาท ลดลง 18 ล้านบาท หรือร้อยละ
74 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในปี 2551 มีกำไรจากการขาย อเมสโก จำนวน
15 ล้านบาท
* ต้นทุนบริการ จำนวน 160 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 122 ล้านบาท
หรือร้อยละ 43 ซึ่งสัมพันธ์กับรายได้ที่ลดลง
* ต้นทุนขายน้ำประปา จำนวน 37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 4
ล้านบาท หรือร้อยละ 12
* ค่าใช้จ่ายในการบริหารและภาษี จำนวน 57 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
จำนวน 14 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 19 เนื่องจากภาษีเงินได้ของ เอสโก ที่ลดลงจากรายได้ที่ลดลง
* ส่วนแบ่งผลกำไรในส่วนได้เสียในกิจการร่วมค้า ของเอสโก อันได้แก่ อเมสโก ลดลง 4 ล้านบาท
หรือร้อยละ 100 จากการขาย อเมสโกไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2551
4. รายงานและวิเคราะห์ฐานะการเงิน
4.1 การวิเคราะห์สินทรัพย์
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 เอ็กโก บริษัทย่อยและส่วนได้เสียในกิจการร่วมค้า มีสินทรัพย์รวม
จำนวน 60,710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,380 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2551
โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้
1) เงินสด เงินฝากสถาบันการเงิน เงินลงทุนในหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาด ทั้งระยะสั้น
และระยะยาว จำนวน 6,084 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10 ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้น 52 ล้านบาท
หรือร้อยละ 1 สาเหตุหลักจาก การได้รับเงินปันผลจากกิจการร่วมค้า 1,120 ล้านบาท เงินปันผลจาก
อีสท์วอเตอร์ 78 ล้านบาท ราคาตลาดของอีสท์วอเตอร์ที่ปรับเพิ่มขึ้น 183 ล้านบาท และได้เงินสดรับ
จากการดำเนินงาน 1,848 ล้านบาท ในขณะที่จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 1,334 ล้านบาท
มีการลงทุนในกิจการร่วมค้า จำนวน 1,060 ล้านบาท และมีการจ่ายชำระเงินต้นและดอกเบี้ยของหุ้นกู้
และเงินกู้ 791 ล้านบาท
2) เงินลงทุนระยะสั้นและระยะยาวที่ใช้เป็นหลักประกัน จำนวน 1,176 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน
ร้อยละ 2 ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาท หรือร้อยละ 1 สาเหตุหลักจากการสำรองเงินไว้สำหรับ
การชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยที่ครบกำหนดชำระคืนของ บฟข.
3) เงินลงทุนในบริษัทย่อยและส่วนได้เสียในกิจการร่วมค้า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 ส่วนได้เสีย
ในกิจการร่วมค้า ซึ่งบันทึกโดยวิธีส่วนได้เสียตามงบการเงินรวม มีมูลค่าตามบัญชี เท่ากับ 27,289
ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 45 ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้น 2,795 ล้านบาท หรือร้อยละ 11
ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญได้แก่
3.1) การเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย จำนวน 3,768 ล้านบาท
3.2) ได้รับเงินปันผลจาก บีแอลซีพี จีอีซี โคแนล และเคซอน จำนวน 1,606 ล้านบาท
3.3) การได้มาซึ่งกิจการร่วมค้า จำนวน 483 ล้านบาท
3.4) การเพิ่มทุนของกิจการร่วมค้าและการโอนย้ายหนี้สินสุทธิมาเป็นส่วนได้เสียในกิจการร่วมค้า
จำนวน 322 ล้านบาท
3.5) ขาดทุนจากการแปลงค่างบการเงินของบริษัทที่อยู่ในต่างประเทศ จำนวน 173 ล้านบาท
สำหรับเงินลงทุนในบริษัทย่อยและส่วนได้เสียในกิจการร่วมค้า ซึ่งบันทึกโดยใช้ราคาทุนเดิมเป็น
ราคาเริ่มต้น ตามงบการเงินเฉพาะบริษัท มีมูลค่าตามบัญชี ณ 30 มิถุนายน 2552 เท่ากับ 35,444
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,119 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก เอ็กโก มีการลงทุนเพิ่มในเอ็กโก บีวีไอ
และเอ็นทีพีซี
4) ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ (สุทธิ) จำนวน 16,064 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26 ของ
สินทรัพย์รวม ลดลงสุทธิทั้งสิ้น 977 ล้านบาท หรือร้อยละ 6 สินทรัพย์ที่ลดลงส่วนใหญ่มาจาก การตัด
ค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ เอ็กโก และบริษัทย่อยอื่นๆ จำนวน 1,095 ล้านบาท และการโอนวัสดุ
สำรองหลักที่ไม่ใช้งานออกไปยังวัสดุสำรองคลังของ เอ็กโก โคเจน บฟร. และ บฟข. จำนวน 85
ล้านบาท ในขณะที่มีการบันทึกวัสดุสำรองหลักเป็นสินทรัพย์เนื่องจากการซ่อมบำรุงรักษาของ
เอ็กโก โคเจน บฟร. และ บฟข. จำนวน 134 ล้านบาท และซื้อสุทธิของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
จำนวน 69 ล้านบาท
5) สินทรัพย์อื่นๆ จำนวน 10,097 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17 ของสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้น
501 ล้านบาท หรือร้อยละ 5 สาเหตุหลักจากเงินปันผลค้างรับจากบีแอลซีพี ที่เพิ่มขึ้น 486 ล้านบาท
4.2 การวิเคราะห์หนี้สิน
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 กลุ่มเอ็กโกมีหนี้สินรวม จำนวน 11,818 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2551
จำนวน 970 ล้านบาท หรือร้อยละ 8 ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1) เงินกู้ยืมระยะสั้น จำนวน 3,500 ล้านบาท หรือร้อยละ 30 ของหนี้สินรวม เกิดจากการที่ เอ็กโก
ได้เบิกเงินกู้ยืม ตามสัญญาสินเชื่อตั๋วสัญญาใช้เงินกับธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งหนึ่ง เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551
2) เงินกู้ยืมระยะยาวและหุ้นกู้ จำนวน 7,236 ล้านบาท หรือร้อยละ 61 ของหนี้สินรวม ลดลง 533
ล้านบาท หรือร้อยละ 7 สาเหตุหลักเกิดจากการชำระคืนหุ้นกู้ของ บฟข. และเงินกู้ของ เอ็กโก โคเจน
และร้อยเอ็ด กรีน โดยมีรายละเอียดเป็นเงินตราสกุลต่างๆ ดังนี้
- เงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- เงินกู้สกุลเยน จำนวน 722 ล้านเยน
- เงินกู้สกุลบาท จำนวน 4,596 ล้านบาท
- หุ้นกู้สกุลบาท จำนวน 1,830 ล้านบาท
กำหนดชำระคืนเงินกู้ระยะยาวและหุ้นกู้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 หน่วย : ล้านบาท
กำหนดชำระคืน เอ็กโก บฟข. เอ็กโก โคเจน ร้อยเอ็ด กรีน
ภายใน 1 ปี - 864 155 36
1-5 ปี - 966 874 146
เกินกว่า 5 ปี 4,000 - 121 75
รวม 4,000 1,830 1,150 256
ทั้งนี้เงินกู้ยืมระยะยาวและหุ้นกู้ค้ำประกันโดยการจำนองที่ดิน อาคาร โรงไฟฟ้า และเครื่องจักรของ
บริษัทย่อย นอกจากนี้บริษัทย่อยได้กันเงินสำรองเพื่อการชำระคืนเงินต้นและจ่ายดอกเบี้ยที่จะครบกำหนด
ชำระคืนภายใน 1 ปี ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 มีจำนวนรวม 206 ล้านบาท
3) หนี้สินอื่นๆ จำนวน 1,082 ล้านบาท หรือร้อยละ 9 ของหนี้สินรวม ลดลง 436 ล้านบาท หรือ
ร้อยละ 29 สาเหตุหลักเนื่องจากค่าใช้จ่ายค้างจ่ายของ เอ็กโก และ เอสโก ที่ลดลง
4.3 การวิเคราะห์ส่วนของผู้ถือหุ้น
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 ส่วนของผู้ถือหุ้น มีจำนวน 48,891 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551
จำนวน 3,349 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7 เนื่องจากปัจจัยหลักคือ กำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานตาม
งบการเงินรวม จำนวน 4,642 ล้านบาท ในขณะที่มีการจัดสรรเงินปันผลจำนวน 1,316 ล้านบาท
จากการวิเคราะห์โครงสร้างของเงินทุน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 สรุปได้ดังนี้
ส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 48,891 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 80.53
หนี้สิน จำนวน 11,818 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 19.47
สามารถคำนวณหา อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ ได้ดังนี้
- อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เท่ากับ 0.24 เท่า ต่ำกว่าสิ้นปี 2551 ซึ่งเท่ากับ 0.28 เท่า
- มูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์สุทธิต่อหุ้น เท่ากับ 91.92 บาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551
ซึ่งอยู่ที่ระดับ 85.60 บาท
5. รายงานการวิเคราะห์กระแสเงินสด
งบกระแสเงินสดแสดงกระแสเงินสดที่เปลี่ยนแปลงจากกิจกรรมดำเนินงาน กิจกรรมลงทุน และกิจกรรม
จัดหาเงิน ณ สิ้นงวดบัญชี และแสดงเงินสดและรายการเทียบเท่าคงเหลือสิ้นงวด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552
เงินสดและรายการเทียบเท่าคงเหลือ มีจำนวน 4,866 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2551 ทั้งสิ้น 113 ล้านบาท
ซึ่งมีรายละเอียดของแหล่งที่มาและแหล่งที่ใช้ไปของเงินดังต่อไปนี้
- เงินสดสุทธิที่ได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน จำนวน 1,848 ล้านบาท มาจากเงินสดที่ได้มาจากการ
ดำเนินงาน 2,701 ล้านบาท เงินสดใช้ไปสำหรับเงินทุนหมุนเวียน 578 ล้านบาท และจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล
274 ล้านบาท
- เงินสดสุทธิที่ได้มาจากกิจกรรมลงทุน จำนวน 164 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากเงินปันผล
จากกิจการร่วมค้า จำนวน 1,120 ล้านบาท ในขณะที่มีการลงทุนในกิจการร่วมค้า จำนวน 1,060 ล้านบาท
- เงินสดสุทธิที่ใช้ไปสำหรับกิจกรรมจัดหาเงิน จำนวน 2,125 ล้านบาท เกิดจากการจ่ายเงินปันผล
ให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 1,334 ล้านบาท และการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยของหุ้นกู้และเงินกู้ของ เอ็กโก บฟข.
เอ็กโก โคเจน และ ร้อยเอ็ด กรีน รวมทั้งสิ้น 791 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 บผฟ. มีอัตราส่วนสภาพคล่อง (Liquidity Ratio) ที่สำคัญ ดังนี้
- อัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) อยู่ที่ 2.81 เท่า เทียบกับสิ้นปี 2551 ซึ่งเท่ากับ
2.58 เท่า
- อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว (Quick Ratio) อยู่ที่ 1.40 เท่า เทียบกับสิ้นปี 2551
ซึ่งเท่ากับ 1.34 เท่า
สาเหตุที่อัตราส่วนสภาพคล่องของปี 2552 สูงกว่าปี 2551 เนื่องจากเงินปันผลค้างรับจากกิจการ
ร่วมค้าที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายค้างจ่ายที่ลดลง