เอ็กโก กรุ๊ป จับมือ ดีจีเอ ศึกษาการพัฒนาธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับไฮโดรเจนและพลังงานหมุนเวียนในออสเตรเลีย

ข่าวสารและความเคลื่อนไหว

เอ็กโก กรุ๊ป จับมือ ดีจีเอ ศึกษาการพัฒนาธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับไฮโดรเจนและพลังงานหมุนเวียนในออสเตรเลีย

20 กรกฎาคม 2566

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ร่วมมือกับ บริษัท ไดมอนด์ เจนเนอเรติ้ง เอเชีย จำกัด (ดีจีเอ) ในเครือมิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อศึกษาและประเมินโอกาสในการร่วมพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไฮโดรเจนครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าและโครงการพลังงานหมุนเวียน ตลอดจนการผลิตกรีนไฮโดรเจนจากโรงไฟฟ้า “โบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม” ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเอ็กโก กรุ๊ป ถือหุ้น 100% มุ่งขับเคลื่อนเป้าหมายสู่สังคมคาร์บอนต่ำ  

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป ตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานสะอาดที่มีบทบาทมากขึ้นในยุคเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน โดยเฉพาะไฮโดรเจนที่มีศักยภาพรองรับการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานสีเขียว การพัฒนาอย่างรวดเร็วของตลาดไฮโดรเจน ทำให้เอ็กโก กรุ๊ป เล็งเห็นศักยภาพและโอกาสในการลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไฮโดรเจนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งไม่เพียงเป็นการสร้าง New S-Curve และสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ยังช่วยขับเคลื่อนบริษัทไปสู่การบรรลุเป้าหมายระยะยาว คือ การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 (2593) ภายใต้แนวคิดการดำเนินธุรกิจ “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth”   

“เอ็กโก กรุ๊ป และดีจีเอ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับเอ็กโก กรุ๊ป มาอย่างยาวนาน พร้อมประสานความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและพลังงาน เพื่อศึกษาและประเมินความเป็นไปได้ในการร่วมพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไฮโดรเจนตลอดห่วงโซ่คุณค่าในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาอุตสาหกรรมกรีนไฮโดรเจน หรือไฮโดรเจนที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียน การศึกษาจะครอบคลุมถึงการผลิตกรีนไฮโดรเจนจากโรงไฟฟ้า “โบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม” กำลังผลิต 113 เมกะวัตต์ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย ซึ่งเอ็กโก กรุ๊ป ถือหุ้น 100% ด้วย โดยความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงานและการขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน” นายเทพรัตน์ กล่าว   

   

นายชินอิจิโร่ ซูซูกิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไดมอนด์ เจนเนอเรติ้ง เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า “ดีจีเอให้ความสำคัญต่อการลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงานไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตลอดจนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งตลอดห่วงโซ่อุปทานของการใช้เชื้อเพลิงที่สะอาดขึ้น ดังเช่นไฮโดรเจน ภายใต้ MoU นี้ ดีจีเอจะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมความพยายามในการดำเนินการเพื่อลดการปลดปล่อยคาร์บอนของเอ็กโก กรุ๊ป ดีจีเอจะใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมาช่วยสนับสนุนเอ็กโก กรุ๊ป เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero 2050 ตามแผนที่ตั้งไว้”

เกี่ยวกับเอ็กโก กรุ๊ป
ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,202 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,249 เมกะวัตต์ (คิดเป็นสัดส่วน 20% ของกำลังผลิตทั้งหมด) ทั้งจากชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และเซลล์เชื้อเพลิง โดยได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) มา 3 ปีต่อเนื่อง ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าและโครงการต่าง ๆ ตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (“ทีพีเอ็น”) โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม “เอ็กโกระยอง” ตลอดจนยังได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย บริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน (“เพียร์ พาวเวอร์”) บริษัทด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม (“อินโนพาวเวอร์”) 

เกี่ยวกับดีจีเอ
ดีจีเอ เป็นบริษัทในเครือของ มิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น (Mitsubishi Corporation) ก่อตั้งขึ้นในปี 2552 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในฮ่องกง เพื่อเป็นฐานทางธุรกิจผลิตไฟฟ้าของเครือมิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น ที่ดูแลภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนีย และตะวันออกกลาง ด้วยเป้าหมายในการขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้าในภูมิภาคดังกล่าว ซึ่งมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยดีจีเอมีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น ณ เดือนธันวาคม 2022 ประมาณ 1,470 เมกะวัตต์